Translations are evolving and should be taken as indicative only! For a guide to the tones and the spelling system used to write this variety of Isaan (Khon Kaen), see the "tone guide" on the overview page.

Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling

IsaanPronunciationTonesThaiEnglish/Notes#occ
เจ็ด jet M เจ็ด seven 16/6

Link to overview page
Link to dictionary

Basic vocabulary — page 19 — Series A, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year


11 นี้คือปะติทิน
12 ปะติทินบอกมื้อเจ็ดมื้อ
13 ปะติทินบอกเดียน เดียนหนึ่ง มีสามสิบเอ็ดมื้อ
14 ปะติทินบอกปี มีสิบสองเดียน

Basic vocabulary — page 11 — Series B, pictures 10-13: mosquito, to bite, blood, to slap


10
นี้คืออี่หยัง นี้คือญุง
ญุงมันเป็นสัดมีปีก ญุงมันบ่มีกะดูก ญุงมันบินได้ เพาะว่ามันมีปีก
แต่ว่าญุงเป็นสัดน้อยบ่สามาดอยู่ได้โดน สามาดใซ้ซีวิดได้แค่เจ็ดมื้อ แล้วมันกะตาย
ญุงมันกินเลียดเป็นอาหาน มันสิกินเลียดคน หลือกินเลียดสัดอื่นขั้นมันบ่ได้กินเลียด มันกะสิตายเล็ว
มันกัดเจ็บบ่ เจ็บอยู่ ญุงมันกัดเจ็บหลาย ขั้นมันมากัดเฮา มันกะสิเจ็บบักคักหนึ่ง
ญุงมันตาย้านบ่ ตาย้านอยู่ ขั้นญุงมันกัดเฮา เฮากะอาดสิเป็นโลกไข้เลือดออกกะได้ โลกนี้มันตาย้านหลาย

11
ญุงมันกำลังเฮ็ดหญัง มันกำลังสิบินไปกัดคน มันสิบินไปกัดแขนคน
พุซายคนนี้ เขาใส่เสี้ยแขนสั้น กำลังนอนหลับอยู่
ญุงมันเห็น มันกะเลยสิไปกัดกินเลียด กัดกินเลียดของคน ตอนนี้มันกำลังสิบินไป เบิ่งซงแล้วมันคือสิอยากกินเลียดหลาย อยากกัดคนหลาย

12
ตอนนี้ญุงมันเฮ็ดอี่หยัง ตอนนี้ญุงมันกำลังกัดคน
มันบินลงไปกัดคนแล้ว ตอนนี้มันกัดคนอยู่ มันกำลังกินเลียด ตอนนี้คนบ่ทันได้ฮู้สึก คนกะกำลังนอนอยู่

13
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขาฮู้สึกโต เขาฮู้สึกเจ็บ เพาะว่าญุงกำลังกัดเขา เขากะเลยใซ้มือของเขาตบญุง
ขั้นเขาตบญุง ญุงสิตายบ่ กะตายอยู่ เพาะว่าเขาใซ้มือของเขาตบญุง ขั้นมันโดนคนตบ มันกะสิตาย

Basic vocabulary — Page 33 — Series B, pictures 09-10: Where is? What time is it?


9
เขากำลังเฮ็ดหญังกัน มีพุหญิงกับพุซาย เขากำลังคุยกัน หลือว่ากำลังเว้ากัน
ในลูบพาบนั้นพุซายกำลังถามพุหญิงว่า โลงบานอยู่ใสคับ แถวนี้มีโลงบานบ่คับ ฮู้จักโลงบานบ่คับ ว่าโลงบานอยู่ใสคับ
พุหญิงอาดสิตอบว่า ฮู้จักอยู่จ้า โลงบานไปทางพุ้นจ้า โลงบานไปทางพี้จ้า โลงบานอยู่บ่ไกจากนี้ดอกจ้า
โลงบานอยู่ข้างหน้าเด้อจ้า โลงบานญ่างไปทางพุ้นเด้อจ้า
แล้วแต่ว่าเขาสิตอบแบบใด หลือว่าแล้วแต่ว่าพุหญิงสิตอบแบบใด ขั้นฮู้ว่าไปทางซ้าย กะตอบว่าทางซ้าย ขั้นฮู้ว่าไปทางขวา กะตอบไปทางขวาเนาะ
ขั้นฮู้ว่าต้องไปทางพุ้น ทางพี้ ทางนั้น กะอะทิบายให้เพิ่น กะเว้าให้เพิ่นฟังว่า ต้องไปจั่งซั้นจั่งซี้เนาะ

10
มีคนสองคน เขากำลังเฮ็ดหญังกัน มีพุหญิงกับพุซาย เบิ่งซงแล้ว พุซายอาดสิอยากฮู้เวลาว่ามันจักโมงแล้ว
อาดสิถามพุหญิงว่า ตอนนี้จักโมงแล้วคับ ตอนนี้จักโมงแล้วน้อ ฮู้จักเวลาบ่คับว่าตอนนี้จักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้วคับ ฮู้จักบ่คับ
อันนี้กะเป็นคำเว้าของคนที่ถาม อาดสิใส่ค้าหลือว่าใส่คับกะได้
แล้วกะคนตอบ อาดสิตอบไปว่า ตอนนี้เวลาเท่านั้นเท่านี้ สิบโมงแล้วจ้า เที่ยงแล้วจ้า ทุ้มหนึ่งแล้วจ้า หกโมงเซ้า เจ็ดโมงเซ้า หลือว่าเท่าใด แล้วแต่เวลาว่าตอนนั้นเท่าใดกะตอบไปตามเวลาเท่านั้น
เที่ยงกะตอบเที่ยง บ่ายกะตอบบ่าย ห้าโมงกะตอบห้าโมงเนาะ ว่าตอนนั้นจักโมงแล้ว เฮากะตอบไปตามที่เขาถามมาเนาะ

Basic vocabulary — Page 32 — Series B, pictures 11-13: garlic, to peel, to cut/slice


11
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นกะเทียม
กะเทียมหัวหนึ่ง
กะเทียมนี้มันเป็นอี่หยัง มันกะเป็นพืดอย่างหนึ่งเนาะ เป็นแนวปุง ปุงอาหาน ให้มันมีลดซาด หลือว่าให้มันมีกิ่นอีกแบบหนึ่ง แล้วแต่คนมัก บางคนกะบ่มัก บางคนกะมักเนาะ มันสิมีลดแซบเผ็ดจักหน่อยหนึ่งเนาะ กะเทียมเนี้ย เอาไปไว้ไปปุงแนวกินเนาะ
ในกะเทียมหัวหนึ่งเนี้ย มันกะสิมีแย้กออกไป เป็นกีบเนาะ
ในหัวหนึ่งกะสิมีหลายกีบ ลังอันกะมีเจ็ด แปดกีบ ลังอันกะเป็นสิบกีบ
แล้วเฮากะเอาไปปุงอาหาน บางเที่ยกะใส่เป็น ใส่เที่ยละกีบ สองกีบ สามกีบกะได้ บางเที่ยกะใส่แต่ละหัวกะได้ ขั้นปะลิมานแนวกินมันหลายเนาะ
แล้วอันขาวอยู่ขอบมันเนี้ยเป็นอี่หยัง อันนี้อาดสิเป็นแบบว่า เป็นเปียกมันกะได้ หลือว่าเป็น บ่แน่ใจ กะอาดสิเป็นเปียกมัน
แต่ว่าอันขาวเนี้ยกินบ่ได้เนาะ ก่อนเฮาสิเฮ็ดแนวกิน เฮากะต้องแกะออกก่อน แกะเปียกมันให้แกะอันสีขาวคาบมันเนี้ย แกะออกก่อน แล้วเฮากะใส่อันข้างในมันที่มันเป็นเนี้ยเหลียงหลือว่าเป็นในมันหละเนาะ แล้วกะไปปุงแนวกิน

12
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีคนคนหนึ่ง เขากำลังแกะ แกะเปียก หลือว่าแกะคาบกะเทียมเนาะ
เป็นหญังเขาต้องแกะเปียกมันออก หลือว่าแกะอันขาวนั้นออก เพื่อว่าอันนั้นมันกินบ่ได้ กะต้องแกะออก หลือว่ามัน เขาบ่พากันกินเนาะ เขากะเลยแกะออกไป แล้วกะสิใส่แต่ในมัน หลือว่าน่วยอันที่มันเป็นกีบเหลียงนั้น เอาไปกินส่ำนั้นเนาะ

13
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะเขากำลังหั่นกะเทียมเนาะ หั่นกะเทียมเป็นซิ้นน้อยเป็นซิ้นน้อย
เขากะเอามากีบเดียว เอามากีบเดียว แล้วกะหั่นๆๆๆๆ ให้มันเป็นซิ้นน้อย
เขาอาดสิบ่อยากตำ บางคนกะเอาไปตำกะได้ บางคนกะเอามาหั่น มาสับๆๆๆ กะได้ แล้วแต่สิ่งที่เขาถะหนัด หลือว่าสิ่งที่เขาต้องกาน ที่สิเอาไปเฮ็ดเนาะ

Basic vocabulary — page 12 — Series B, pictures 01-05: alarm clock, to sleep, to get up


1
นี้คืออี่หยัง นี้คือนาลิกาปุก
นาลิกาปุกมีไว้เฮ็ดหญัง นาลิกาปุกมีไว้ถ้าปุก นาลิกาปุกซ่อยให้คนตื่นญามมื้อเซ้าได้
เขาตั้งนาลิกาปุกจักโมง เขาตั้งนาลิกาปุกเจ็ดโมงห้าสิบเก้านาที
เจ็ดโมงห้าสิบเก้านาทีเป็นญามเซ้าแม่นบ่ แม่น เจ็ดโมงห้าสิบเก้านาทีเป็นญามเซ้า
เป็นหญังเขาคือตั้งปุกญามมื้อเซ้า เพาะว่าเขาอาดสิไปเฮ็ดงาน หลือสิไปโลงเลียนกะได้ เขากะเลยปุกญามมื้อเซ้า เพื่อที่สิให้ตื่น สิให้ตื่นไปทันเวลา
นาลิกาปุกต้องตั้งเวลาบ่ ตั้งอยู่ ขั้นเฮาอยากตื่นญามใด เฮากะตั้งเวลาปุกญามนั้น
ขั้นอยากตื่นญามเที่ยง เฮากะตั้งนาลิกาปุกญามเที่ยง ขั้นอยากตื่นญามเซ้า เฮากะตั้งนาลิกาปุกญามมื้อเซ้า

2
นาลิกาปุกมันเป็นอี่หยัง นาลิกาปุกมันกำลังปุก
มันปุกตอนจักโมง มันปุกตอนสองโมงเซ้า ตอนแปดนาลิกามันดังขึ้น
เพาะว่าเขาตั้งนาลิกาปุกตอนสองโมงเซ้า พอฮอดสองโมงเซ้าแล้ว นาลิกาปุกมันกะสิดังขึ้น มันกะสิดังบักแฮงหนึ่ง เสียงดังบักคัก เฮ็ดให้เสียงดัง
เพาะว่าคนกำลังนอนหลับ ขั้นได้ญินเสียงนาลิกาปุกดังคนกะสิตื่น กะสิตื่นขึ้นเลย

3
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังนอนหลับ
เขานอนหลับอยู่ใส เขานอนหลับอยู่ในห้องนอน
ห้องนอนของพุใด จักคือกัน ห้องนอนนี้กะอาดสิเป็นห้องนอนของเขา เขากะเลยนอนหลับอยู่หั้น เขานอนอยู่เทิงเตียงนอน
ข้างเตียงนอนของเขามีโต่ะนอนพ้อม มีโต่ะน้อยโต่ะสีเหลียง
อยู่เทิงโต่ะของเขากะมีนาลิกาปุกพ้อม ในโต่ะนั้นกะมีลิ้นชักพ้อม ลิ้นชักมีสามอัน
ตอนนี้เขากำลังนอนหลับ นอนหลับเป็นตาแซบ นอนหลับเป็นตามีแฮง
เขาเอาหัวของเขาหมุนอยู่เทิงหมอน แล้วเขากะผ้าห่มห่มโตของเขา นอนเป็นตาแซบหลาย เป็นตามีแฮงบักคักหนึ่ง

4
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังสิตื่น
เป็นหญังเขาคือสิตื่น เขาได้ญินเสียงนาลิกาปุก
เขาตั้งนาลิกาปุกไว้ มันฮอดเวลาปุกแล้ว นาลิกาปุกมันกะเลยดังขึ้น
พอเขาได้ญิน กะเฮ็ดให้เขาตื่น เพาะว่านาลิกาปุกมันเสียงดังหลาย มันเสียงดังบักคัก กะเลยเฮ็ดให้เขาตื่น เฮ็ดให้เขาตื่นนอน

5
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังตื่นนอน
พุซายคนนี้เขาตื่นนอนแล้ว เขาลุกขึ้นมาจากเตียงแล้ว
แล้วเขาสิญ่างไปใส เขาสิเฮ็ดอี่หยังต่อไป กะบ่ลู้คือกัน
เขาลุกขึ้นมาจากเตียงแล้ว เขาบ่ได้ใส่เกิบเลย เขากำลังสิญ่างไป
จักสิญ่างไปใส เขาอาดสิฟ้าวไปอาบน้ำ อาดสิไปเฮ็ดงานหลืออาดสิไปโลงเลียนกะได้

Basic vocabulary — page 19 — Series B, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year


11
นี้คืออี่หยัง นี้คือปะติทิน อันนี้เป็นปะติทิน บอกมื้อ บอกวัน บอกเวลา หลือบอกเดียนบอกปีนั้นหละ
แต่ว่าในปะติทินนี้มีบอกสามมื้อหนึ่ง มีบอกวันที่สิบ แล้วกะบอกวันที่สิบเอ็ด แล้วกะบอกวันที่สิบสอง มีบอกสามมื้อ เฮาเห็นสามมื้อนั้นหละ

12
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้กะเป็นปะติทิน
เป็นปะติทินบอกมื้อ ตอนนี้เฮาเห็นปะติทินบอกเจ็ดมื้อหนึ่ง บอกบ่หลาย เห็นแค่เจ็ดมื้อ
มีวันที่สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม แล้วกะสิบสี่ สิบห้า สิบหก แล้วกะสิบเจ็ด
มีเจ็ดมื้อหนึ่ง เอิ้นง่ายว่ามีอาทิดหนึ่ง อาทิดหนึ่งมีเจ็ดมื้อ
ในอาทิดหนึ่งกะสิมีเจ็ดมื้อ กะสิมีวันจัน วันอังคาน วันพุด วันพะลึหัด วันสุก วันเสา แล้วกะวันอาทิด
กะมีเจ็ดมื้อ ลวมกันกะเป็นอาทิดหนึ่ง หลือเจ็ดมื้อนั้นหละ

13
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้ปะติทินบอกเดียน อันนี้กะเป็นปะติทิน ปะติทินบอกเดียน
อันนี้มีเดียนหนึ่ง แล้วแต่เดียน อันนี้บ่ฮู้ว่าเป็นเดียนอี่หยัง แต่ว่าในเดียนนี้มีสามสิบเอ็ดมื้อ
บางเดียนกะมีสามสิบมื้อ บางเดียนกะมียี้บเก้ามื้อ แล้วแต่ เดียนกุมพาพันกะสิมียี้บเก้ามื้อ
ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย คม กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย ย๊น กะสิมีสามสิบมื้อ
แต่ว่าในเดียนนี้ที่เขาบอก[อยู่]ในลูบพาบนี้ กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ เดียนนี้กะอาดสิลงท้ายด้วย คม

14
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทิน เป็นปะติทินคือเก่านั้นหละ แต่ว่าปะติทินอันนี้เป็นปะติทินบอกปี บอกปี
ปีหนึ่งกะสิมีสิบสองเดียน อันนี้เป็นบอกปี ปีสองพันห้าล้อยห้าสิบเก้า
หลือบอกคอสอ ขั้นเป็นคอสอของปะเทดฝะลั่งกะสิสองพันสิบหก
ในสิบสองเดียน หลือในปีหนึ่ง กะสิมีสิบสองเดียน แต่ละเดียนกะสิมี หนึ่ง เดียนมกกะลาคม สอง กุมพาพัน สาม เดียนมีนาคม สี่ เดียนเมสาย๊น ห้า เดียนพึสะพาคม หก เดียนมิถุนาย๊น เจ็ด เดียนกะละกะดาคม แปด เดียนสิงหาคม เก้า เดียนกันญาย๊น สิบ เดียนตุลาคม สิบเอ็ด เดียนพึสะจิกาย๊น สิบสอง เดียนทันวาคม
อันนี้กะสิเป็นสิบสองเดียนในหนึ่งปี แต่ละปีกะสิมีสิบสองเดียนนี้หละ
แล้วในปีหนึ่งสิมีจักมื้อ ในปีหนึ่งกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ หลือสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
ขั้นเดียนกุมพา หลือขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้บแปดมื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
แต่ว่าขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้สิบเก้ามื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ