Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling
Isaan | Pronunciation | Tones | Thai | English/Notes | #occ |
---|---|---|---|---|---|
หก | hok | M | หก | six | 30/14 |
Link to overview page
Link to dictionary
Vocabulary recordings — เข้างาย
คำว่า เข้างาย นี้กะสิหมายถึงว่า เข้าเซ้า เนาะ เข้าเซ้า หลือว่าเวลาเซ้า ในตอนกินเข้าต้องเป็นญามมื้อเซ้า สิเอิ้นว่าเข้างาย หลือว่าเข้าเซ้าเนาะ กะสิอาดในเวลาที่หกโมงฮอดเก้าโมงปะมานนั้นเนาะ กะสิเอิ้นว่าเข้าเซ้าหลือว่าเข้างาย ขั้นเกินหกโมงเซ้าฮอดเก้าโมงกะสิเอิ้นว่า เข้าสวย เนาะ
กานใซ้คำว่าเข้างาย หลือว่าเข้าเซ้านั้น กะอาดสิใซ้ในปะโยกที่แบบว่า
— กินเข้างายไป่
— กินเข้างายแล้วติ
— มากินเข้างายนำกันเด้อ
— มากินเข้าเซ้านำกัน
— กินเข้างายกับอี่หยังหละพ่อใหญ่
อันนี้กะสิเป็นโตอย่างหลือว่ากานใซ้ที่มีคำว่าเข้างาย หลือว่าใซ้ในญามมื้อเซ้าที่เอิ้นกันกินเข้า หลือว่าใซ้กานเอิ้นกินเข้าในญามมื้อเซ้าเนาะ
Basic vocabulary — page 06 — Series B, pictures 14-15: large/small, fish, ball
นี้คืออี่หยัง นี้คือปา
ปาอี่หยัง บ่ลู้คือกันว่ามันเป็นปาอี่หยัง
ปามีจักโต ปามีสองโต
ปาโตใหญ่บ่ ปาโตใหญ่อยู่
แล้วมีปาโตน้อยบ่ มีอยู่ มีปาโตน้อยอยู่
ปาโตใหญ่สีอี่หยัง ปาโตใหญ่สีขาว
ปาโตน้อยสีอี่หยัง ปาโตน้อยสีฟ้า
ปาสองโตนี้ ใหญ่ห่างกันหลายบ่ หลายอยู่ ปาโตใหญ่กะใหญ่บักคัก ปาโตน้อยกะน้อยบักคัก น้อยเฮ็ดเอ่าะเจ่าะอยู่
ปามันมีหางบ่ มีอยู่ ปามันมีหางพ้อม
ปามันมีคีบบ่ มีอยู่ ปามันมีคีบอยู่
ปามันอยู่ใส ปามันอยู่ในน้ำ ปามันอยู่เทิงขี้ดินบ่ได้
15
นี้คืออี่หยัง นี้คือลูกบอน
มีลูกบอนจักลูก มีลูกบอนหกลูก
มีลูกบอนลูกใหญ่บ่ มีอยู่ มีลูกบอนลูกใหญ่สามลูก
มีลูกบอนลูกน้อยบ่ มีอยู่ มีลูกบอนลูกน้อยสามลูก
มีลูกบอนสีอี่หยังแน่ มีลูกบอนสีแดง กับลูกบอนสีเขียว
Vocabulary recordings — เข้าแลง
ต่อไปกะสิเป็นคำว่า เข้าแลง เนาะ เข้าแลงนั้นกะหมายถึงว่า เข้าญามมื้อแลง เข้าคาบญามมื้อแลง ตอนค่ำๆ หลือว่าญามมื้อแลงฮอดตอนดึกๆ นั้นเองเนาะ กะสิเอิ้นว่าเข้าแลง อาดสิเป็นสี่โมงแลง ห้าโมงแลง หกโมงแลง หลือว่าทุ้มหนึ่ง สองทุ้ม สามทุ้มจั่งซี้เนาะ กะสิเอิ้นว่าเข้าแลงเนาะ กะ
— กินเข้าแลงแล้วติ
— กินเข้าแลงไป่
— ได้หญังกินแลงหละ
— ได้อี่หยังกินเข้าแลงน่อ
กะสิเว้าปะมานนี้ กะสิเอ่ยปะมานนี้เนาะ แล้วกะต่อไปกะสิเป็นญามมื้อคืนแล้ว ขั้นหลังจากแลงแล้ว หลือว่าค่ำแล้ว กะสิเป็นญามดึกต่อไปเนาะ คนอี่สานส่วนมากสิบ่อยู่ฮอดดึกบ่นั้น สิบ่มีเข้าที่มีคาบต่อไปอีก เพาะว่าคนอี่สานสิเข้านอนเล็ว หลือว่าบ่เฮ็ดอี่หยังเลยเวลาดึกไปฮอดปานนั้นเนาะ แล้วกะคนอี่สานกะสินิยมพากันนอนเล็ว หลือว่าพากันฟ้าวนอนนั้นเองเนาะ เพาะว่ามื้อใหม่สิได้เฮ็ดงาน ไปเฮ็ดงาน หลือว่าไปเฮ็ดไฮ่เฮ็ดนา แล้วกะสิมีเข้าเซ้าต่อไป
BCF04 Introducing oneself to others — Description
— สะหวัดดีคับ ผมซื่อ ... เด้อคับ ผมเป็นพุใหญ่บ้าน บ้าน ... บ้านอันนั้น บ้านอันนี้เด้อคับ ขอฝากเนี้ยฝากโตหนะเด้อคับ
หลือจะเป็นกานแนะนำโตของเจ้าของ เจ้าของอาดจะเป็นนักเลียน แนะนำโตให้คูฮู้จัก อย่างเซ้นว่า
— อาจานคับ สะหวัดดีคับ ผมซื่อนาย ... ผมเลียนอยู่ซั้นมอสี่ทับหก ผมมาเลียนอยู่โลงเลียนแห่งนี้มื้อแลก กะขอฝากเนี้ยฝากโตหนะเด้อคับ
และอีกเหดกาน และอีกสะถานะกานอาดสิพ้อกันอยู่ในงานบางอย่าง อาดสิแนะนำโตของเจ้าของว่า
— สะหวัดดีคับ ผมซื่อ ... เด้อคับ ผมเป็นหมอ ลักสาอยู่โลงพะยาบาน ... เด้อคับ
เฮากะอาดจะแนะนำโตของเจ้าของ หลือคนอื่นกะอาดสิแนะนำโตของเขาให้เฮาฮู้จัก และนี้กะสิเป็นกานแนะนำโตของเจ้าของ ให้คนอื่นฮู้จัก หลือเฮากะอาดสิฮู้จักคนอื่นพ้อม นี้กะเป็นคำเว้าบางส่วน คำเว้าในกานแนะนำโตของเจ้าของของคนอี่สาน
Basic vocabulary — Page 33 — Series B, pictures 09-10: Where is? What time is it?
เขากำลังเฮ็ดหญังกัน มีพุหญิงกับพุซาย เขากำลังคุยกัน หลือว่ากำลังเว้ากัน
ในลูบพาบนั้นพุซายกำลังถามพุหญิงว่า โลงบานอยู่ใสคับ แถวนี้มีโลงบานบ่คับ ฮู้จักโลงบานบ่คับ ว่าโลงบานอยู่ใสคับ
พุหญิงอาดสิตอบว่า ฮู้จักอยู่จ้า โลงบานไปทางพุ้นจ้า โลงบานไปทางพี้จ้า โลงบานอยู่บ่ไกจากนี้ดอกจ้า
โลงบานอยู่ข้างหน้าเด้อจ้า โลงบานญ่างไปทางพุ้นเด้อจ้า
แล้วแต่ว่าเขาสิตอบแบบใด หลือว่าแล้วแต่ว่าพุหญิงสิตอบแบบใด ขั้นฮู้ว่าไปทางซ้าย กะตอบว่าทางซ้าย ขั้นฮู้ว่าไปทางขวา กะตอบไปทางขวาเนาะ
ขั้นฮู้ว่าต้องไปทางพุ้น ทางพี้ ทางนั้น กะอะทิบายให้เพิ่น กะเว้าให้เพิ่นฟังว่า ต้องไปจั่งซั้นจั่งซี้เนาะ
10
มีคนสองคน เขากำลังเฮ็ดหญังกัน มีพุหญิงกับพุซาย เบิ่งซงแล้ว พุซายอาดสิอยากฮู้เวลาว่ามันจักโมงแล้ว
อาดสิถามพุหญิงว่า ตอนนี้จักโมงแล้วคับ ตอนนี้จักโมงแล้วน้อ ฮู้จักเวลาบ่คับว่าตอนนี้จักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้วคับ ฮู้จักบ่คับ
อันนี้กะเป็นคำเว้าของคนที่ถาม อาดสิใส่ค้าหลือว่าใส่คับกะได้
แล้วกะคนตอบ อาดสิตอบไปว่า ตอนนี้เวลาเท่านั้นเท่านี้ สิบโมงแล้วจ้า เที่ยงแล้วจ้า ทุ้มหนึ่งแล้วจ้า หกโมงเซ้า เจ็ดโมงเซ้า หลือว่าเท่าใด แล้วแต่เวลาว่าตอนนั้นเท่าใดกะตอบไปตามเวลาเท่านั้น
เที่ยงกะตอบเที่ยง บ่ายกะตอบบ่าย ห้าโมงกะตอบห้าโมงเนาะ ว่าตอนนั้นจักโมงแล้ว เฮากะตอบไปตามที่เขาถามมาเนาะ
Basic vocabulary — page 14 — Series B, pictures 11-14: clock, hour, minute
นี้คืออี่หยัง นี้คือนาลิกา นาลิกาเป็นซงวงกม เป็นลูบวงกม
นาลิกาสีขาว ขาวจุ่นพู่นอยู่ ขอบนาลิกากะเป็นสีดำ เป็นวงกมคือกัน
นาลิกามีไว้เฮ็ดหญัง นาลิกามีไว้ถ้าเบิ่งเวลา ไว้ถ้าบอกเวลา
ขั้นมีนาลิกา เฮากะสิฮู้ว่า ตอนนี้จักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้ว เฮากะสิฮู้ เพาะว่าเฮาเบิ่งนาลิกา แล้วเฮากะสิลู้เวลา
ตอนนี้นาลิกาจักโมงแล้ว ตอนนี้นาลิกาห้าโมงตง หลือห้านาลิกาพอดี
ตอนนี้เข็มนาลิกาอ่วยไปทางใด ตอนนี้เข็มนาลิกาอ่วยไปใส่เลขห้า เข็มใหญ่อ่วยไปทางเลขห้า เข็มน้อยอ่วยไปหม้องเลขสิบสอง
สะหลุบแล้วว่า เฮากะสิฮู้เวลา เฮากะสิเบิ่งเวลาออก เพาะว่าเฮาเบิ่งจากเข็มนาลิกา มันอยู่หม้องใด มันอยู่เลขใด เฮากะสิเบิ่งเวลาถืก
12
นี้คืออี่หยัง นาลิกาคือกันแม่นบ่ แม่น อันนี้กะนาลิกาคือกัน อันนี้กะเป็นนาลิกา
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงสิบห้านาที เพาะว่าเข็มนาลิกา เข็มใหญ่มันอ่วยไปใส่เลขห้า เข็มน้อยนาลิกามันอ่วยไปใส่เลขสาม สะหลุบแล้วเวลากะห้าโมงสิบห้านาที
13
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงเคิ่ง หลือเวลาห้าโมงสามสิบนาทีนั้นหละ
14
ตอนนี้เวลาจักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาห้าโมงสี่สิบห้านาที
เข็มนาลิกาเข็มใหญ่มันยังอยู่เลขห้าอยู่ แล้วเข็มน้อยมันกะอยู่ที่เลขเก้า สะหลุบแล้วเวลากะห้าโมงสี่สิบห้านาที
แล้วตอนนี้เวลามันฮอดหกโมงไป่ บ่ มันทันได้ฮอดหกโมงอยู่ ตอนนี้มันห้าโมงกว่าๆ หนึ่ง บ่ทันได้ฮอดหกโมงเลย
ขั้นเข็มนาลิกาเข็มใหญ่อยู่เลขหก แล้วเข็มน้อยเลยเลขสิบสองไป มันกะสิฮอดหกโมง ตอนนี้เหลียเวลาอีกสิบห้านาที มันจั่งสิฮอดหกโมง หลือหกนาลิกานั้นหละ
Basic vocabulary — Page 28 — Series B, pictures 11-15: alms bowl, monk, to open, food, to close
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เบิ่งซงแล้วกะสิเป็นบาดเนาะ เป็นบาดพะ บาดพะหนิหละ
บาดนี้มีหน้าที่หนะเอาไว้เฮ็ดหญัง พะกะสิมี กะสิเอาบาดนี้ไปไว้ถ้าบินทะบาดญามมื้อเซ้าเนาะ บินทะบาดอยู่นำหมู่บ้าน หลือว่าเอาไว้ถ้าใส่แนวกินกับชาวบ้านที่เอามาถะหวาย หลือว่าเอามาให้เนาะ กะสิเอาใส่บาดนี้ เป็นพาชะนะหลือว่าแนวที่สิใส่กับเข้ากับน้ำที่เพิ่นเอามาให้ หลือว่าชาวบ้านเอามาให้มาทานเนาะ
12
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นพะเนาะ
เป็นพะลูบหนึ่ง กำลังถือบาดอยู่
จักว่าถืออยู่ใส อาดสิอยู่ในวัดหลือว่ากำลังญ่างบินทะบาดกะได้
ขั้นสิไปบินทะบาดหนิ สิไป[บินทะบาด]จั่งใด สิบินทะบาดจั่งใด กะไปบินทะบาดญามมื้อเซ้า ปะมานหกโมงเซ้าเนาะ หลือว่าตีห้า เพื่อที่สิไปบินทะบาดลอบหมู่บ้าน เพื่อที่สิให้ชาวบ้านชาวเอ่ยเนี้ย มาถะหวายเข้าถะหวายน้ำกับพะลูบนี้เนาะ
แล้วตอนนี้พะกำลังใส่อี่หยัง กะกำลังใส่ เขาเอิ้นว่าจีวอนเนาะ จีวอนสีส้ม
จีวอนนี้มีสีหญังแน่ กะแล้วแต่ว่าสีที่มันเป็น สีค้ายๆ กับ โทนเดียวกันกับสีส้มเนาะ อาดสิเป็นสีส้ม สีเหลียง สีน้ำตานแก่ หลือว่าสีแดงแก่ สีแดงอ่อน กะแล้วแต่เนาะ เอากะสิปะมานนี้ สีโทนเดียวกันปะมานนี้เนาะ
แล้วพะเป็นหญังต้องโกนหัวโล้น อันนี้กะบ่แน่ใจกันเนาะ แต่ว่ากะ ฮู้แต่ว่าพะซู่องซู่ลูบเนาะกะต้องโกนหัวโล้น
13
พะลูบนี้กำลังเฮ็ดหญัง กำลังเปิดฝาบาด
เป็นหญังเขา เป็นหญังเพิ่นต้องเปิดฝาบาด กะอาดสิมีชาวบ้านหลือว่าพุคนมาถะหวายเข้าถะหวายน้ำในบาดนี้ เพิ่นกะเลยต้องเปิดบาด เพื่อที่สิลับเข้าลับน้ำจากชาวบ้านเนาะ
14
อันนี้กำลังเฮ็ดหญังอยู่ พะเนาะกำลังเปิดฝาบาดขึ้น เพื่อที่สิลับเข้าลับน้ำจากชาวบ้าน หลือว่าลับอาหานจากชาวบ้านที่เอามาถะหวาย กะสิมีชาวบ้าน หลือว่า เอิ้นว่ายาดโย๊มเนาะ มาถะหวายเข้าถะหวายน้ำในบาดนี้ กำลังยื่นแนวกิน หลือว่าเอาเข้าใส่ไปในบาดเนาะ
Basic vocabulary — page 08 — Series B, pictures 17-20: bottle, expensive/cheap, car, crab, noodle soup
นี้คืออี่หยัง นี้คือขวด
ขวดอี่หยัง บ่ลู้คือกัน อาดสิเป็นขวดน้ำหลือขวดเหล้ากะได้
ขวดมีจักขวด ขวดมีสองขวด
ขวดมีสีอี่หยังแน่ ขวดมีสีเหลียงกับขวดมีสีเขียว
ขวดมีลาคาแพงบ่ มีลาคาแพงอยู่ ขวดสีเหลียงมีลาคาแพงหลาย ขวดสีเขียวมีลาคาถืกหลาย
เป็นหญังขวดสีเหลียงคือลาคาแพง บ่ลู้คือกัน อาดสิขวดใหญ่ หลือลาคาแพงกะได้
เป็นหญังขวดสีเขียวคือลาคาถืก บ่ลู้คือกัน อาดสิขวดน้อย ลาคามันเลยถืกกะได้
18
นี้คืออี่หยัง นี้คือลดเก็ง
ลดเก็งมีจักคัน ลดเก็งมีสองคัน
ลดเก็งคันใหญ่บ่ คันใหญ่อยู่ ลดเก็งคันสีแดงคันใหญ่ ลดเก็งคันสีเขียวคันน้อย
ลดเก็งมีลาคาแพงบ่ แพงอยู่ ลดเก็งคันใหญ่สีแดงมีลาคาแพงหลาย แพงบักคักหนึ่ง
ลดเก็งคันน้อยสีเขียวมีลาคาถืกหลาย ถืกบักคักหนึ่ง
19
นี้คืออี่หยัง นี้คืออี่ปู
อี่ปูมันโตสีหญัง อี่ปูมันโตสีแดง
อี่ปูมันโตใหญ่บ่ โตใหญ่อยู่ อี่ปูมันโตใหญ่หน่อยหนึ่ง
อี่ปูมันอยู่ใส อี่ปูมันอยู่ในทะเลหลืออยู่ในน้ำ
อี่ปูมันตาย้านบ่ ตาย้านอยู่ แต่บ่ตาย้านหลาย
อี่ปูมันมีก้ามสองก้าม แต่ละก้ามมันอันบักใหญ่หนึ่ง
ก้ามอี่ปูมันสามาดหนีบซิ้นเฮาได้ ซิ้นกะแปว่าหนังหลือเนี้ยของเฮานั้นหละ
ขั้นมันหนีบซิ้นเฮาแล้ว มันสิเจ็บบักคักหนึ่ง เจ็บอี่หลีอี่หลอ
อี่ปูมันมีจักขา อี่ปูมันมีแปดขา ข้างละสี่ขา ขาน้อยมีหกขา แล้วกะก้ามสองขา ลวมแล้วเป็นแปดขาพอดี
20
นี้คืออี่หยัง นี้คือกวยเตียวกับอี่ปู
กวยเตียวมันลาคาแพงบ่ บ่ กวยเตียวมันลาคาบ่แพง กวยเตียวมันลาคาถืก ถืกบักคักหนึ่ง
แล้วอี่ปูมันลาคาแพงบ่ แพงอยู่ อี่ปูมันลาคาแพงหลาย แพงบักคักหนึ่ง แพงกะด้อกะเดี้ย
เป็นหญังอี่ปูมันคือแพง เพาะว่าอี่ปูมันหาญากหลาย มันต้องลงไปในทะเล แล้วกะจับมันขึ้นมา ซัวสิหาได้แต่ละโต มันหาญากหลาย มันกะเลยลาคาแพง
แล้วอี่ปูมันแซบบ่ แซบอยู่ อี่ปูมันแซบหลาย อี่ปูมันแซบบักคักหนึ่ง แต่ว่ามันลาคาแพง คนกะเลยบ่ค่อยกิน
Basic vocabulary — Page 31 — Series B, pictures 14-17: morning, noon, afternoon, evening
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ กะเป็นบันญากาดญามมื้อเซ้าเนาะ กำลัง พะอาทิดกำลังสิ กำลังสิขึ้นจากดิน กำลังสิขึ้นไปเทิงฟ้าเนาะ กำลังสิลอยขึ้นๆๆ เนาะ
กะเป็นอากาดที่บอลิสุด หลือว่าเป็นอากาดที่บ่ฮ้อน
ส่วนมากแล้วคนสิมักอากาดญามมื้อเซ้าเนาะ เป็นอากาดที่สดซื้นหลือว่า[สดซื้น]เนาะ เพาะว่าพะอาทิดกำลังขึ้น มันบ่ฮ้อนปานใด เป็นอากาดที่เย็นๆ เนาะ คนกะสิมักอากาดญามมื้อเซ้าเนาะ
แล้วกะเบิ่งทัมมะซาดหม้องนี้ แล้วกะมีพูเขาพ้อม มีต้นไม้หลายต้นพ้อม มีทองฟ้าสีฟ้าพ้อม โอ๊ย เป็นตาไปเนาะ อาดสิเป็นทัมมะซาดที่คนอยากไปหม้องนี้เนาะ
15
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ เป็นทัมมะซาด
อาดสิเป็นญามเที่ยง เป็นตอนเที่ยงเนาะ เพาะว่าพะอาทิดกำลังขึ้นเทิงทองฟ้าแล้ว อาดสิขึ้นฮอดกางๆๆ ทองฟ้าแล้ว
แล้วเฮาสิฮู้ได้จั่งใดว่าเป็นญามมื้อเซ้า หลือว่าเป็นญามเที่ยง หลือว่าตอนนี้มันญามเที่ยง เฮาสิฮู้ได้จั่งใด เฮากะเบิ่งง่ายๆ ว่าขั้นพะอาทิดตงหัวเฮา หลือว่าเฮาแนมขึ้นไปเทิงฟ้าเนี้ย แล้วพะอาทิดอยู่ตงหัวเฮาพอดี มันกะสิเที่ยงตงพอดี
ขั้นพะอาทิดมันหัวกะขึ้น มันสิเป็นญามเซ้า แต่ว่าขั้นพะอาทิดมันตกดินแล้วกะสิเป็นญามแลงเนาะ แต่ว่าตอนนี้พะอาทิดมันอยู่เทิงหัวเฮากะสิเป็นตอนเที่ยงพอดี
อากาดกะกำลังฮ้อน กำลังฮ้อนคักนั้นหละ บ่เย็น บ่หนาว แต่ว่าฮ้อนเนาะ เพาะว่าอาทิดมันกำลังขึ้นฟ้า
16
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ กะเบิ่งลักสะนะแล้วกะกำลังสิค่ำ
แต่ว่ากะสิเป็นญามบ่ายๆ อยู่เนาะ กำลังปะมานบ่ายสาม บ่ายสี่ หลือว่าห้าโมงแลง ปะมานนี้เนาะ กำลังสิค่ำ พะอาทิดกำลังสิตกดิน
กำลังสิเบิดฮ้อนไป เพาะว่าพะอาทิดกำลังสิตกดิน กำลังสิอ่วยลงดิน กำลังสิมุดดินลงไปเนาะ
17
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ กะกำลังสิ กำลังสิค่ำ กำลังสิมืดเนาะ
แล้วปะมานนั้น ขั้นพะอาทิดตกดินเนี้ย มันสิปะมานจักโมง กะสิปะมานหกโมงแลง หลือว่าทุ้มหนึ่ง ปะมานนี้ พะอาทิดกะสิตกดินเลียบล้อยแล้ว
ปะมานหกโมงเนี้ย พะอาทิดกำลังสิอ่วยลงไปตกดิน
ปะมานทุ้มหนึ่งพะอาทิดตกดินเลียบล้อยแล้วเนาะ ขั้นเป็นในพากอี่สาน
แล้วมันกะสิมืดหลังจากที่พะอาทิดตกดินไปแล้ว แล้วอากาดหลือว่าบันญากาดกำลังกะสิมืดไป
Basic vocabulary — Page 28 — Series B, pictures 01-03: to hang, picture, monkey, branch, socks
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเอาพาบไปห้อย
พาบอี่หยัง เป็นลูบพาบวาด หลือว่าพาบถ่ายนี้หละ เป็นกอบสี่เหลี่ยม
เขาสิเอาไปห้อยเฮ็ดหญัง เขากะสิห้อยไว้ฝาผะหนัง หลือว่าห้อยไว้ถ้าโซ ไว้ถ้าเบิ่ง
เขาห้อยไว้ใสเกาะ ห้อยไว้ฝาผะหนัง ติดกับฝาผะหนังหละ
แล้วเขาห้อยจั่งใด กะสิมีเซียกติดอยู่กอบลูบ หลือว่าหม้องพาบวาด แล้วกะไปห้อยใซ้ตะปู ตะปูที่มันตอกลงไปในฝาผะหนัง เขากะสิเอาตะปูหนั้นหละ ตะปูดอกหนึ่งตอกลงไปในฝาผะหนัง แล้วแต่ว่าเฮาสิตอกอยู่หม้องใด เอาไว้จุดใด เฮากะตอกตะปูลงไปหม้องนั้น แล้วเฮากะเอาพาบอันนี้ไปห้อยอยู่หม้องตะปูหม้องนั้น หลือว่าไปห้อยอยู่หม้องข้างฝาหม้องนั้น
2
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นสัด เขาเอิ้นว่าลิง มันเป็นลิง
ลิงกำลังเฮ็ดหญังอยู่ มันกำลังห้อยอยู่ ห้อยอยู่เทิงง่าไม้ อยู่เทิงกิ่งไม้หนั้นหละ
กิ่งไม้กิ่งใหญ่บ่ บ่ใหญ่ปานใดดอก
เอ๊า แล้วเป็นหญังลิงคือไปห้อยอยู่หนั้น กะจักคือกัน มันอาดสิมักอยู่เทิงกกไม้กะได้ มันกะเลยห้อยอยู่เทิงกกไม้ หลือว่าห้อยอยู่เทิงง่าไม้
ในโตของลิงมันมีอี่หยังแน่ มันกะสิมีแขน มีขา มีแขนสองข้าง มีขาสองข้าง มีหางพ้อม มีขนพ้อม ลิงซู่โตสิมีขนหลายพ้อม เกียบซู่จุดหลือว่าซู่หม้องอยู่ในโตมันเอาโลด
แล้วลิงอันนี้โตสีหญัง อันนี้ลิงโตนี้มันสีส้ม
แล้วลิงโตอื่นสีอื่นได้บ่ ได้อยู่ แล้วแต่ลิงพันนั้นหลือว่าลักสะนะนั้น มันกะสิแตกต่างกันไป บ่คือกัน
แล้วลิงมันอาสัยอยู่ใส มันกะอยู่ในป่า อยู่ในป่าในดงในโคกพุ้นหละ
ลังเที่ยคนกะจับมันเอาไว้ในสวนสัด หลือว่าเอามันมาเลี้ยงอยู่บ้าน
3
อันนี้อี่หยัง อันนี้เป็นถุงเท้า เขากำลังตากถุงเท้าอยู่
ถุงเท้ามีจักกิ่ง มีหกกิ่ง
กะอาดสิมัน อาดสิสกกะปก หลือว่ามันเปี้ยน เขากะเอามาซักเพื่อที่สิให้มันสะอาด ให้มันหอมเนาะ เพื่อที่สิใซ้งานต่อไปในมื้อใหม่
แล้วเขาตากอยู่ใส กะตากอยู่กางแก้ง หลือว่าตากอยู่หม้องมันมีแดด ให้แดดส่อง ขั้นแดดถืก หลือว่ามันตากใส่แดด มันกะสิแห้ง หลือว่าเฮ็ดให้มันบ่เหม็นอับเนาะ ขั้นมันบ่มีแดด มันกะสิเหม็นอับ หลือว่าเหม็นตากบ่แห้งนั้นเองเนาะ
Basic vocabulary — page 19 — Series B, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year
นี้คืออี่หยัง นี้คือปะติทิน อันนี้เป็นปะติทิน บอกมื้อ บอกวัน บอกเวลา หลือบอกเดียนบอกปีนั้นหละ
แต่ว่าในปะติทินนี้มีบอกสามมื้อหนึ่ง มีบอกวันที่สิบ แล้วกะบอกวันที่สิบเอ็ด แล้วกะบอกวันที่สิบสอง มีบอกสามมื้อ เฮาเห็นสามมื้อนั้นหละ
12
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้กะเป็นปะติทิน
เป็นปะติทินบอกมื้อ ตอนนี้เฮาเห็นปะติทินบอกเจ็ดมื้อหนึ่ง บอกบ่หลาย เห็นแค่เจ็ดมื้อ
มีวันที่สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม แล้วกะสิบสี่ สิบห้า สิบหก แล้วกะสิบเจ็ด
มีเจ็ดมื้อหนึ่ง เอิ้นง่ายๆ ว่ามีอาทิดหนึ่ง อาทิดหนึ่งมีเจ็ดมื้อ
ในอาทิดหนึ่งกะสิมีเจ็ดมื้อ กะสิมีวันจัน วันอังคาน วันพุด วันพะลึหัด วันสุก วันเสา แล้วกะวันอาทิด
กะมีเจ็ดมื้อ ลวมกันกะเป็นอาทิดหนึ่ง หลือเจ็ดมื้อนั้นหละ
13
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้ปะติทินบอกเดียน อันนี้กะเป็นปะติทิน ปะติทินบอกเดียน
อันนี้มีเดียนหนึ่ง แล้วแต่เดียน อันนี้บ่ฮู้ว่าเป็นเดียนอี่หยัง แต่ว่าในเดียนนี้มีสามสิบเอ็ดมื้อ
บางเดียนกะมีสามสิบมื้อ บางเดียนกะมียี้บเก้ามื้อ แล้วแต่ เดียนกุมพาพันกะสิมียี้บเก้ามื้อ
ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย คม กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย ย๊น กะสิมีสามสิบมื้อ
แต่ว่าในเดียนนี้ที่เขาบอก[อยู่]ในลูบพาบนี้ กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ เดียนนี้กะอาดสิลงท้ายด้วย คม
14
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทิน เป็นปะติทินคือเก่านั้นหละ แต่ว่าปะติทินอันนี้เป็นปะติทินบอกปี บอกปี
ปีหนึ่งกะสิมีสิบสองเดียน อันนี้เป็นบอกปี ปีสองพันห้าล้อยห้าสิบเก้า
หลือบอกคอสอ ขั้นเป็นคอสอของปะเทดฝะลั่งกะสิสองพันสิบหก
ในสิบสองเดียน หลือในปีหนึ่ง กะสิมีสิบสองเดียน แต่ละเดียนกะสิมี หนึ่ง เดียนมกกะลาคม สอง กุมพาพัน สาม เดียนมีนาคม สี่ เดียนเมสาย๊น ห้า เดียนพึสะพาคม หก เดียนมิถุนาย๊น เจ็ด เดียนกะละกะดาคม แปด เดียนสิงหาคม เก้า เดียนกันญาย๊น สิบ เดียนตุลาคม สิบเอ็ด เดียนพึสะจิกาย๊น สิบสอง เดียนทันวาคม
อันนี้กะสิเป็นสิบสองเดียนในหนึ่งปี แต่ละปีกะสิมีสิบสองเดียนนี้หละ
แล้วในปีหนึ่งสิมีจักมื้อ ในปีหนึ่งกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ หลือสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
ขั้นเดียนกุมพา หลือขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้บแปดมื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
แต่ว่าขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้สิบเก้ามื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ
Basic vocabulary — Page 26 — Series B, pictures 01-05: monk, to good to receive food offerings, Buddha statue, temple, stupa
อันนี้เพิ่นเป็นพุใด เพิ่นเป็นพะ
เป็นหญังคือเอิ้นว่าพะ เป็นหญังคือเป็นพะ กะเพิ่นบวดแล้ว เพิ่นบวด กะเลยเอิ้นว่าพะ
กานเอิ้นกะสิมีสองแบบ ขั้นพุซายบวด สิเอิ้นว่าพะ ขั้นพุหญิงบวด หลือว่าแม่หญิงบวด สิเอิ้นว่าแม่ซี แต่ว่าอันนี้เพิ่นเป็นพุซาย กะเลยเอิ้นว่าพะ
พะเพิ่นใส่ซุดสีหญัง พะเพิ่นกะใส่แต่สีเดียว สีเหลียงหลือว่าสีส้มส่ำนั้นหละ บ่ให้ใส่สีอื่น สีแดง สีซมพู สีดำ เพิ่นบ่ให้ใส่ ให้ใส่แค่สีเดียว
2
พะเพิ่นกำลังเฮ็ดหญัง พะเพิ่นกำลังสิบินทะบาด พะเพิ่นกำลังสิไปบินทะบาด
บินทะบาดอยู่ใส กะอาดสิไปบินทะบาดลอบบ้าน หลือว่าอ้อมหมู่บ้านหนั้นหละ หม้องใดมีพุคน หลือว่ามีคนอยู่หนั้น เพิ่นกะสิไปบินทะบาดอยู่หั้น
ขั้นบ้านใดสิใส่บาด เพิ่นกะไปบ้านนั้น ขั้นบ้านใดบ่ใส่ เพิ่นกะญ่างผ่านไป
กานบินทะบาดของพะนี้กะสิไปแค่มื้อละเที่ย ไปแต่ญามเซ้า ตื่นขึ้นหกโมง ทำวัดอี่หยังเส็ด กะไปบินทะบาดญามมื้อเซ้า
แล้วญามเที่ยงพะสิออกไปบินทะบาดบ่ บ่ บ่ไป พะสิบินทะบาดเที่ยเดียว ญามเที่ยงญามแลงบ่บินทะบาดเนาะ
3
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นพะพุดทะลูบ เป็นพะพุดทะลูบตั้งอยู่
พะพุดทะลูบเอาไว้เฮ็ดหญัง พะพุดทะลูบกะเอาไว้ถ้ากาบไหว้ เป็นที่กาบไหว้ของพุคน พุคนสิมักมากาบมาไหว้อยู่หม้องนี้ หลือว่าพุใดอยู่ใก้ อยู่แถวๆ นี้ กะสิมาไหว้พะพุดทะลูบอยู่หม้องนี้
พะพุดทะลูบนี้มีซีวิดบ่ บ่ พะพุดทะลูบบ่มีซีวิด เป็นสิ่งที่เฮ็ดขึ้นมา ปั่นขึ้นมา เพื่อให้เป็นสิ่งที่คนเคาลบหลือว่ากาบไหว้หนั้นหละ
4
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นสาลา เป็นสาลาวัด หลือว่าสาลาปะเลียนนั้นหละ
พะอาดสิมาสันเข้า หลือว่าสันเข้าเซ้า สันเพน หลือว่าจำวัด จำสีนวัด กะเฮ็ดอยู่หม้องนี้เบิดซู่อย่าง อาดสิมีกิดจะกัม ชาวบ้านอี่หยังมาเฮ็ด กะอาดสิมาเฮ็ดกิดจะกัมอยู่นี้ เกี่ยวกับวัด เกี่ยวกับสาสะนา หลือว่าพะทัมเนาะ สิสามาดมาเฮ็ดได้อยู่หม้องนี้
แล้วสาลานี้ตั้งอยู่ใส สาลานี้กะตั้งอยู่ในวัด ส้างขึ้นอยู่ในวัด
5
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เอิ้นว่าเจดี หลือว่าพะทาดเจดีนั้นหละ แล้วแต่คนสิเอิ้น แล้วแต่คนสิเว้า
พะทาดหลือว่าเจดีนี้เฮ็ดมาจากอี่หยัง บางหม้องกะเฮ็ดมาจากดิน บางหม้องกะเฮ็ดมาจากปูน บางหม้องเฮ็ดมาจากเหล็กจากไม้ แล้วแต่สิเฮ็ด แล้วแต่คนสิคิดเฮ็ดว่า เฮ็ดแบบใด เฮ็ดจั่งใด เฮ็ดเพี่ยอี่หยัง ปะมานนั้นเนาะ
แล้วพะทาดหลือว่าเจดีนี้เป็นสิ่งสักสิดบ่ หลือว่าคนเคาลบ คนไหว้ คนกาบ คนหญังบ่ กะมีส่วนอยู่ บางเจดีกะเฮ็ดเพื่อให้คนเคาลบหลือว่านับถือ บางเจดีกะเฮ็ดเป็นหม้องที่ใส่กะดูกคนที่ตายไปแล้ว หลือว่ากะดูกของพะพุดทะเจ้า หลือว่ากะดูกของพะของคนที่ตายไปแล้วหนั้นหละ
Basic vocabulary — page 15 — Series B, pictures 01-04: house, rain, water jar, bucket, to scoop
นี้คืออี่หยัง นี้คือบ้าน หลือเฮียนนั้นหละ
เฮียนมีหลังคาพ้อม หลังคาเป็นลูบสามเหลี่ยม เป็นลูบสามเหลี่ยมสองอัน
เฮียนหลังนี้มีบันไดพ้อมแม่นบ่ แม่น มีบันไดพ้อม มีบันไดขึ้นเฮียน แต่ว่าอยู่หน้าบ้าน บ่ได้อยู่ในบ้าน อยู่ข้างนอกบ้านนั้นหละ
บันไดอันนี้เป็นซั้นๆ พ้อม มีหลายซั้นบักคักหนึ่ง เฮ็ดจากอี่หยังกะบ่ฮู้ หน้าสิเฮ็ดจากไม้
แล้วข้างๆ บ้านกะมีโอ่งพ้อม มีโอ่งใบน้อยๆ หนึ่ง
โอ่งเป็นใบสีแดง ใบบ่ใหญ่หลาย โอ่งกะมีฝาปิดพ้อม
อยู่หลังบ้านกะมีท้องฟ้าพ้อมแม่นบ่ แม่น มีท้องฟ้าพ้อม มีก้อนเมกพ้อม ก้อนเมกสามก้อน ก้อนบักใหญ่หนึ่ง แต่กะบ่ใหญ่หลาย
เฮียนหลังนี้มีหน้าต่างพ้อม หน้าต่างเป็นลูบสี่เหลี่ยม มีหกบาน บานเป็นบานสี่เหลี่ยม บานบ่ใหญ่หลาย กะบานน้อยๆ หนึ่ง
เฮียนหลังนี้เฮ็ดมาจากอี่หยัง เฮียนหลังนี้เฮ็ดมาจากไม้ อาดสิเป็นบ้านไม้กะได้ เฮ็ดจากไม้ บ่ได้เฮ็ดจากปูน
บ้านหลังนี้คือสูงแท้ จักคือกัน กะสูงอยู่ เพาะว่าบ้านอันนี้มีสองซั้น เป็นบ้านสองซั้น ซั้นข้างล่างบ่มีอี่หยัง แต่ว่าซั้นข้างเทิงนั้นเป็นบ้าน
2
นี้คืออี่หยัง นี้กะคือบ้านคือเก่านั้นหละ
ตอนนี้กะเป็นบ้านเลียนไทยหลังเก่า เป็นบ้านไม้ เป็นเฮียนไม้หลังเก่านั้นหละ
ตอนนี้ อยู่บ้านหลังนี้ ฝนกำลังตกแม่นบ่ แม่น ฝนกำลังตกลงมา คือสิตกแฮงเติบ เป็นเม็ดฝน ตกลงมาบักแฮง แฮงบักคักหนึ่ง
แล้วอยู่ข้างบ้านกะมีโอ่งพ้อม มีโอ่งแดงน้อยนั้นหละ โอ่งบ่ใหญ่หลาย เอาไว้โต่งน้ำ เอาไว้ฮองน้ำนั้นหละ หลือเอาไว้เก็บน้ำ
เพาะว่าญามฝนตกมาแล้ว เฮากะสิเอาโอ่งนี้ไว้เก็บน้ำ เอาไว้ถ้ากิน เก็บน้ำเอาไว้ถ้าใซ้งาน หลือเอาไว้ถ้ากินนั้นหละ
3
นี้คืออี่หยัง นี้คือกะคุ หลือถังนั้นหละ
กะคุอันนี้เฮ็ดมาจากอี่หยัง เฮ็ดมาจากเหล็กกะได้ เฮ็ดมาจากพะสะติกกะได้ เฮ็ดได้หลายอย่าง เฮ็ดได้จากหลายสิ่งหลายอย่าง เอาหลายสิ่งหลายอย่างมาเฮ็ดเป็นกะคุกะได้
เพาะว่า ขั้นเฮ็ดให้มันทนทาน มันกะสิใซ้ได้โดน ขั้นเฮ็ดบ่ทนบ่ทาน มันกะใซ้ได้บ่โดน
กะคุอันนี้เอาไว้เฮ็ดหญัง เอาไว้ถ้าตักน้ำ เอาไว้ถ้าใส่ของ ใส่ได้หลายอย่าง สามาดเอาสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ใส่เข้าไปในกะคุนี้ได้ หลือเอาไว้ถ้าใซ้งานได้หลายสิ่งหลายอย่างคือกัน
4
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังตักน้ำ
พุซายคนนี้เขากำลังสิตักน้ำ
เขาใซ้กะคุใบนั้นหละ ใบน้อยๆ ใบบ่ใหญ่หลาย เขากำลังใซ้กะคุนั้นตักน้ำขึ้นไป ตักน้ำอยู่ในโอ่ง
เขาตักน้ำอยู่ใส เขาตักน้ำอยู่ในโอ่ง เขาใซ้กะคุตักน้ำขึ้นไปจากในโอ่ง
เป็นหญังเขาคือตักน้ำ เขาอาดสิเอาน้ำไปกิน หลือเอาน้ำไปใซ้งาน หลือเอาไปเฮ็ดต้มเป็นแนวกินกะได้ กะอันนี้กะบ่ลู้คือกัน จักว่าเขาเอาไปเฮ็ดหญัง
เขาใซ้มือข้างขวาของเขาจับกะคุ แล้วกะตักน้ำอยู่ในโอ่งขึ้นไป มือข้างซ้ายของเขากะจับฝาโอ่งอยู่
โอ่งเฮ็ดมาจากอี่หยัง โอ่งเฮ็ดมาจากปูน เฮ็ดมาจากดินกะได้
โอ่งเฮ็ดมาจากปูน เพื่อที่สิให้มันทนทาน สามาดใซ้งานได้โดน หลือสามาดเก็บน้ำได้โดนหลือได้หลายนั้นหละ
Basic vocabulary — Page 03 — Series B, pictures 12-17: book, book shelf, to take, to open, to read, to close, to put away
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นหนังสือ หนังสือเหล้มบักใหญ่หนึ่ง เหล้มสีเขียว หนาตึ่บเอาโลด
หนังสือมีไว้เฮ็ดหญัง หนังสือกะมีไว้ถ้าอ่าน เอาไว้ถ้าให้ความลู้ ขั้นเฮาเปิดเบิ่งหนังสืออันนั้น หลือว่าเปิดอ่านหนังสืออันนั้น เฮากะสิมีความลู้เกี่ยวกับความลู้ที่มันมีอยู่ในหนังสืออันนั้น
แล้วหนังสือกะมีแนวขั้นหนังสือพ้อม สีแดงๆ นั้นหละ เอาไว้ถ้าขั้นหนังสือ สมมุดว่าเฮาอ่านฮอดหน้านั้นๆ แล้ว เฮากะเอาแนวขั้นหนังสือขั้นไว้ ญามแบบว่าเฮาเซาอ่านแล้ว หลือว่าอ่านฮอดหน้านั้น แล้วเฮาสิพักเบก หลือว่าบ่อยากอ่านอีกแล้ว สิกับมาอ่านมื้อใหม่ เฮากะเอาแนวขั้นหนังสือนั้นมาขั้นไว้ แล้วพอมื้อหลังเฮามาอ่าน เฮากะสิฮู้แล้วว่า เฮาฮอดหม้องนั้นแล้ว เฮาต้องอ่านต่อหม้องนั้น แล้วเฮากะเปิดหม้องที่เฮาขั้นไว้นั้นหละ เอาแนวขั้นสีแดงๆ นั้นหละขั้นไว้ อันนี้กะคือขั้นแนวขั้นหนังสือ
13
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังสิเอาหนังสือ
เอาหนังสืออยู่ใส กะเอาหนังสืออยู่ในซั้นวางหนังสือ
เขาสิเอาหนังสือไปหญัง เขากะอาดสิเอาหนังสือนั้นไปอ่าน เขากะเลยสิเอาหนังสือนั้นไป
หนังสืออยู่เทิงซั้นนั้นมีจักเหล้ม กะมีหลายเหล้มอยู่ มีห้าหกเหล้มพุ้นหนะ เทิงสีซมพู สีเขียว สีแดง สีเหลียง สีฟ้า หลายเหล้มอี่หลีวางเฮียงกันอยู่
14
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเปิดหนังสือ
เขาเปิดหนังสือเฮ็ดหญัง เขากะอาดสิอ่านหนังสือ เขากะเลยเปิดหนังสือ
เขาเปิดหนังสือจักเหล้ม เปิดเหล้มเดียว เปิดเหล้มเดียวข้อหล้อ เหล้มสีเขียว มือข้างหนึ่งกะเปิดไปอีกฝั่งหนึ่ง มือข้างหนึ่งกะเปิดไปอีกฝั่งหนึ่ง
แล้วอี่หยังอยู่ตงกางหนังสือนั้นสีแดงๆ อันนั้นกะเป็นแนวขั้นหนังสือ เป็นแนวขั้นหนังสือเพื่อที่ว่าสิเอาไว้ถ้าขั้นหนังสือ ขั้นหน้านั้น ขั้นหน้านี้
15
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังอ่านหนังสือ
เขาอ่านหนังสืออยู่กับใผ เขาอ่านหนังสืออยู่พุเดียวของเขานั้นหละ เขาอ่านอยู่พุเดียว
แล้วเขาอ่านหนังสืออยู่ใส เขาอาดสิอ่านอยู่โลงเลียน อาดสิอ่านอยู่บ้าน หลือว่าอาดสิอ่านอยู่ห้องสะหมุดกะได้
เขาอ่านหนังสือจักเหล้ม เขากะอาดสิอ่านหนังสือเหล้มเดียว เพาะว่าเฮาเห็นเขาจับหนังสืออยู่เหล้มเดียว บ่ได้มีหลายเหล้ม
16
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังปิดหนังสือ เขาพุนี้กำลังปิดหนังสือ
เขาปิดหนังสือเฮ็ดหญัง เขากะอาดสิบ่อ่านแล้ว หลือว่าอาดสิเซาอ่านแล้ว เขากะเลยปิดหนังสือไว้ เพื่อที่ว่าอาดสิเอาไปเก็บ หลือว่าเอาไปเมี้ยนหม้องที่เขาเอามา
17
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเอาหนังสือไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ
เป็นหญังเขาคือเอาหนังสือไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ กะเพื่อว่าสิให้มันเป็นเลียบล้อย เป็นละเบียบเลียบล้อย เขากะเลยสิเอาไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ เพื่อที่ว่าสิให้มันเบิ่งงาม หลือว่าเป็นละเบียบคือเก่า
ขั้นเขาเอาหนังสือออกมาแล้ว บ่ไปเก็บไว้หม้องเก่า คนอื่นที่เขาสิมาเบิ่ง หลือว่าอาดสิเอามาอ่าน เขากะหาเหล้มนั้นบ่พ้อ หาเหล้มนี้บ่พ้อ เพาะว่าคนที่เอาไปอ่านนั้น บ่มาเก็บไว้หม้องเก่า เอาไปอ่านแล้วกะเอาไปถิ้มไว้หม้องอื่น เอาไปวางไว้หม้องอื่น คนอื่นกะบ่สามาดหาเหล้มหนังสือนี้ได้