Translations are evolving and should be taken as indicative only! For a guide to the tones and the spelling system used to write this variety of Isaan (Khon Kaen), see the "tone guide" on the overview page.

Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling

IsaanPronunciationTonesThaiEnglish/Notes#occ
ปานใด pa:n-dai M-M เท่าไหร่, มาก 1. after negative: (not) very, (not) so much {บ่ใหญ่ปานใด = not so large, not very large}
2. how much, how many {เฮาบ่สามาดนับได้ว่ามันมีหลายปานใด = it's impossible to count how many there are}
32/29

Link to overview page
Link to dictionary

Basic vocabulary — Page 31 — Series A, pictures 03: skin color


3 มีคนผิวขาว ผิวดำ แล้วกะผิวบ่ดำปานใด

Basic vocabulary — Page 28 — Series A, pictures 16-17: to exercise, strong/strength


16 คนกำลังออกกำลังกาย แต่บ่ค่อยมีแฮงปานใด
17 คนกำลังออกกำลังกาย เขาคือสิแข็งแลงคัก เขาคือสิมีแฮงคัก

Basic vocabulary — Page 27 — Series A, pictures 08-10: pond, water, shallow, deep


8 พุซายยืนอยู่ข้างสะน้ำ
9 พุซายลงไปในน้ำ บ่ลึกปานใด ตื้นหนึ่ง
10 พุซายลงไปในน้ำ บักลึกหนึ่ง

Vocabulary recordings — Planting rice 09

อันนี้กะสิเป็นวิทีกานดำนาแล้วกะผายเข้า มันกะสิแตกต่างกันพอสมควน เป็นวิทีที่แตกต่างกัน กานผายเข้ากะสิง่าย บ่หญุ้งญาก ขั้นตอนบ่หญุ้งญากปานใด แต่ว่าคนซู่มื้อนี้กะหันนิยมมาผายเข้าหลาย บ่คือสะหมัยก่อน สะหมัยก่อนกะสิพากันดำเอา เพื่อที่สิได้ผนผะหลิดหลายกว่า เนาะ กานผายเข้า ผนผะหลิดสิได้เคิ่งต่อเคิ่งเลย กะอาดสิบ่ได้หลายท่อกานดำ

Vocabulary recordings — Planting rice 03

แล้วกะเอาเข้าซุมนั้นไปหว่าน หว่านในไฮ่นาที่เฮาเตียมนาดิน ไฮ่นาที่เฮาเตียมนาดิน หลือว่าไถฮุด เฮ็ดให้นาดินมันงามแล้ว พ้อมเอาเข้านั้นหว่านลงไป กานผายนี้กะเอาเข้าซุมนี้หละไปหว่านลงเลย หว่านบ่ถี่เด่ะ หว่านห่างจักหน่อย หว่านห่างพอสมควนเพื่อที่สิให้เข้าซุมนั้นมันเกิดขึ้นมา บ่ถี่กันหลาย บ่แออัด หลือว่าบ่แหน้นคักปานใดเนาะ

Vocabulary recordings — Planting rice 05

แล้วกะอีกวิทีหนึ่งเนาะเป็นวิที เขาเอิ้นว่ากานดำนา ดำไฮ่ดำนานี้หละเนาะ ขั้นตอนแลกเฮากะสิมีเม็ดพันคือกันนั้นหละ เม็ดพันกะสิ แล้วแต่คนสิเอาเม็ดพันแบบใดมา กะอาดสิเป็นเม็ดพันคือกันกับกานผายเข้าเลยเนาะ ขั้นตอนแลกกะเอาเข้าไปแซ่คือกัน แล้วแต่พุใดสิแซ่โดนบ่โดน สองสามมื้อกะได้ กะเอาแซ่ไว้ แล้วกะ ขั้นตอนแลกเฮากะเอาเข้าที่แซ่นั้นหละไปหว่านในไฮ่นา บ่ต้องให้ใหญ่ปานใด แล้วแต่ปะลิมานเข้า เฮาสิเอาเข้าซุมนี้ไปหว่านในไฮ่ตงนั้นที่เฮาไถฮุด หลือว่าไถนาดินไว้งามแล้ว พ้อมที่สิเอาเข้านี้ไปหว่านแล้ว

Basic vocabulary — Page 31 — Series B, pictures 01-02: heart, brain


1
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นหัวใจ หัวใจของคน เป็นอะวัยยะวะของคนอย่างหนึ่ง
หัวใจมันสีอี่หยัง หัวใจมันเป็นสีแดง
แล้วหัวใจหนิมันอยู่หม้องใดของล้างกายคน มันกะอยู่เลาะหน้าเอิกเนาะ หลือว่าอยู่ตงกางของลำโตหนิหละเนาะ
หัวใจหนิมันใหญ่บ่ กะบ่ใหญ่ปานใด กะปะมานสองกำปั้นเนาะ กะบ่ใหญ่คัก กะสิพอปะมานพอดี ปะมานสองสามกำปั้นล่วมกันเนาะ

2
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นสะหมองของคน
หลือว่าเบิ่งลูบ เบิ่งล้างมันเนี้ย ปะมานว่าเป็นสะหมองของคนเนาะ
กะเป็นอะวัยยะวะอีกอย่างหนึ่งของคนคือกัน
มันมีหน้าที่อี่หยัง สะหมองนี้กะมีหน้าที่เอาไว้ถ้าคิด เอาไว้ถ้าจดจำบางสิ่งบางอย่าง หลือว่าเกียบทุกอย่างที่เฮาคิดพ้อ หลือว่าเฮาได้ลับลู้ไป
แล้วสะหมองหนิมันอยู่ส่วนใดของคน สะหมองหนิมันสิอยู่เทิงหัวกะโหลกของคนเนาะ หลือว่าอยู่เทิงหัวของคนหนิหละ อยู่เทิงหัวสุด มันกะอยู่หม้อง หม้องกะโหลกหัวนั้นของเฮาเนาะ

Vocabulary recordings — ปากเป็น 2

มีคนคนหนึ่ง เขามา แบบว่า มาว่าเฮาจั่งซั้นจั่งซี้ มาเว้า มาว่าเฮาในทางที่บ่ดี หลือว่าเขาคนนั้นเป็นเด็กน้อย แล้วไปเว้าว่าพุใหญ่จั่งซั้นจั่งซี้ เว้าจั่งซั้นจั่งซี้ หลือว่าเป็นเด็กน้อยที่เว้าคำที่บ่ดี เว้าคำที่บ่สุพาบ แล้วกะเว้าบ่ม่วน เฮากะเลยสิเว้าออกไปว่า คือปากเป็นแท้ คือเว้าบ่ดีแท้ คือปากสะมะแจะแท้

ความหมายในลูบแบบนี้ หลือว่าในปะโยกแบบนี้ที่เฮาเว้าออกไปว่า คือปากดีแท้ ความหมายในแบบนี้กะคือ เขาคนนั้นเว้าบ่ดี เว้าบ่ม่วน เว้าบ่สุพาบ เว้าบ่ดีปานใด เว้าบ่มีกาละเทสะ บ่มีความ เป็นเด็กน้อย บ่มีมาละย้าด ความหมายในทางที่บ่ดีเนาะ คำว่าปากเป็นหนะ ที่นี้หนะ ตอนนี้เนาะ แล้วกะคำว่าสะมะแจะกะค้ายกับคำว่าปากเป็นนั้นหละ กะคือว่าเว้าบ่ดี เว้าไปทั่วไปทีบ เว้ามั่วซั่ว เว้าบ่มีสาละ เว้าบ่มีเหดผน เว้าไปทั่วไปทีบนั้นหละ ความหมายเนาะ

Basic vocabulary — Page 28 — Series B, pictures 16-17: to exercise, strong/strength


16
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุซายพุหนึ่งเนาะ กำลังออกกำลังกาย
เบิ่งซงแล้วคือสิเป็นตาเมี่ยย หลือว่าบ่มีแฮง หลือว่าเป็นคนบ่แข็งแลงปานใดที่สิมาออกกำลังกายเนาะ
เขาอาดสิบ่เคยออกกำลังกายจักเที่ย หลืออาดสิเป็นเที่ยแลกของเขาที่มาออกกำลังกาย กะเลยเฮ็ดให้ต้องใซ้แฮงหลาย หลือว่าบ่มีพะละกำลังที่สิญกเคี่ยงออกกำลังกายนี้
แล้วเขาญกอี่หยังตอนนี้ กะบ่แน่ใจคือกัน เขาอาดสิเอิ้นว่าแนวญกเนาะ แนวญก ขั้นสำหลับคนอี่สานเขาเอิ้นว่าแนวญกออกกำลังกายเนาะ
กะญกบ่ขึ้น ญกบ่ขึ้นญกบ่ไหวเนาะ กะเลยเฮ็ดให้เขาเฮ็ดสีหน้าที่สิใซ้พะลังหลายเนาะ

17
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุซายพุหนึ่งเนาะ กำลังยืนออกกำลังกายอยู่
ใซ้มือสองข้างญกแนวญกพุ้นแหล้ว ญกบึ่ดๆๆๆๆ ขึ้นเนาะ
เบิ่งซงแล้วเขาอาดสิมีแฮงคัก หลือว่าอาดสิเป็นคนมีพะละกำลังหลาย หลือว่าแข็งแลงเติบเนาะ จั่งญกได้แบบนี้ ญกขึ้นญกลงได้สะบายพุ้นหนะ
ญกขึ้นสูงซ้ำแมะ คือสิมีแฮงคักเนาะ

Basic vocabulary — Page 02 — Series B, pictures 12-15: motorbike, to ride, up, down, hill


12
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นมอเตอไซ เป็นมอเตอไซเอาไว้ถ้าขี่ หลือเอาไว้ถ้าขับ
มอเตอไซเป็นแบบใด มอเตอไซกะเป็นลด เป็นลดมอเตอไซนั้นหละ
แล้วลดมอเตอไซมันคันใหญ่บ่ กะคันบ่ใหญ่ปานใด กะแล้วแต่ลุ้น หลือว่าแล้วแต่ยี่ห้อ บางคันกะใหญ่ บางคันกะน้อย
ลดมอเตอไซสีหญัง ลดมอเตอไซสีแดง
แล้วลดมอเตอไซกะมีล้อพ้อม มีเบาะนั่งพ้อม มีกะจกพ้อม มีแนวบิดพ้อม มีไฟพ้อม มอเตอไซกะมีส่วนปะกอบหลายสิ่งหลายอย่าง

13
เขากำลังเฮ็ดหญัง พุซายคนนี้เขากำลังขับลด เขากำลังขับลดมอเตอไซ เขากำลังขับไปทางหน้า
เขาสิขับไปใส จัก จักคือกัน จักว่าเขาสิขับไปใส ฮู้แต่ว่าเขากำลังขับไปเลี้ยยๆ ขับอยู่เทิงถะหนนนั้นหละ

14
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังขับลดมอเตอไซ กำลังขับลดมอเตอไซขึ้นโนน กำลังขับลดมอเตอไซขึ้นโนนอยู่พุ้นหนะ กำลังบืนขึ้นโนนอยู่
เขาขับลดมอเตอไซจักคน เขาขับพุเดียว เขาไปของเขาพุเดียวนั้นหละ พุเดียวข้อหล้อ

15
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากะขับมอเตอไซนั้นหละ เขากำลังขับมอเตอไซลงโนน ลดมอเตอไซกำลังลงโนนอยู่ หลือว่าลงค้อยนั้นหละ
แล้วเขาขับเล็วบ่ จักคือกัน อาดสิบ่เล็ว เพาะว่าญามลงค้อยหลือว่าลงโนน ขับลดต้องขับค่อยขั้นขับเล็วหลายมันกะอันตะลาย เพาะว่ามันขับลงค้อย มันเป็นโนน

Basic vocabulary — Page 29 — Series B, pictures 08-10: to study, book


8
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีเด็กน้อยพุซายคนหนึ่งเนาะ อาดสิเป็นเด็กน้อย อันนี้ หลือว่าอาดสิเป็นพุใหญ่แล้ว กะบ่ฮู้จัก กะแนมบ่ค่อยซัดปานใดเนาะ แนมบ่ค่อยเห็น เขากำลังเฮ็ดหญังอยู่ เขากำลังเลียนหนังสืออยู่ นั่งโต่ะอยู่ นั่งเก้าอี้อยู่เนาะ แล้วกะนั่งอยู่โต่ะนั้นหละ นั่งอยู่ข้างหน้าพ้อมเด๊ นั่งกำลังเลียนหนังสืออยู่
เขาเลียนวิชาหญังตอนนี้ อาดสิเป็นคะนิดตะสาดเนาะ อาดสิเป็นคะนิด เลียนคะนิดอยู่ เห็นเขามีโตเลขหลายอาดสิเป็นกานคำนวน กะสิเกี่ยวกับคะนิดตะสาด วิชาคะนิดสาดเนาะ
แล้วเขาเลียนอยู่กับใผ เขากะเลียน อาดสิอยู่กับหมู่ อยู่หลายคน แต่ว่าใน[ที่]เห็นอยู่ตอนนี้คือเขานั่งอยู่โต่ะพุเดียว หมู่อาดสินั่งอยู่[ข้างหลัง] อาดสินั่งอยู่โต่ะข้างหลังเนาะ
มือข้างขวากะจับปากกา กำลังเขียนอยู่สะหมุดหนังสือเขาอยู่เนาะ

9
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุซายพุหนึ่งเนาะ ใส่เสี้ยสีเหลียง กำลังอ่านหนังสืออยู่ อาดสิตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อที่สิสอบ หลือว่าอ่านหนังสือเพื่อทบทวนความลู้ หลือว่าให้มันมีความลู้ในสะหมองเนาะ
เขาอ่านหนังสือเกี่ยวกับวิชาหญัง เบิ่งลักสะนะแล้วอาดสิเป็นกานคำนวน วิชาคะนิดตะสาดเนาะ หลือว่าคะนิด หญังที่มันเกี่ยวกับคำนวน หลือว่าฟิสิก หลือว่าอี่หยังกะได้เนาะ

10
แล้วเขากำลังเฮ็ดหญังอยู่ มีพุซายพุหนึ่งเนาะ เขากำลังจับหนังสืออ่านอยู่
เขาอ่านอยู่กับใผ กะจักคือกัน อันนี้เฮากะบ่ฮู้เนาะ เขาอาดสิอยู่พุเดียว หลือว่าอยู่บ้าน หลือว่าอยู่ในห้องเลียนของเขา

Basic vocabulary — Page 33 — Series B, pictures 11-13: to get in/on a car, bus, boat, to board


11
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุซายคนหนึ่ง เขากำลังขึ้นลด ขึ้นลดเก็ง
ลดเก็งคันนี้อาดสิเป็นลดส่วนโตของเขา หลือว่าเป็นลดของเขาเนาะ เขากำลังสิขึ้นไป แล้วกะอาดสิขับไปข้างนอก ขับไปนั้นไปนี้เนาะ

12
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุซายคนหนึ่งเนาะ พุซายเสี้ยสีส้ม กำลังญ่างขึ้น ญ่างขึ้นลดเมหลือว่าลดบั่ดเนาะ กำลังญ่างขึ้นไป
แล้วเขาสิขึ้นลดบั่ดไปใส เขาอาดสิไปตะหลาดตะลี หลือว่าไปในเมียง หลือว่าไปอำเพอนั้น ไปจังหวัดนั้นจังหวัดนี้กะได้เนาะ เขากำลังญ่างขึ้นไป เขากะอาดสิใซ้ลดโดยสาน ใซ้ลดเม ลดบั่ดนี้เป็นพาหะนะไปหม้องนั้นหม้องนี้ หม้องที่เขาอยากไปเนาะ

13
เขากำลังเฮ็ดหญัง มีพุซายคนหนึ่งเนาะ พุซายเสี้ยสีขาว เขากำลังญ่าง ญ่างขึ้นเลีย เขากำลังก้าวขาขึ้นเลีย ก้าวขาลงเลียกะได้
เฮาสิเว้าคำว่า ขึ้น กะได้ หลือว่าสิเว้าคำว่า ลง กะได้ ลงเลีย หลือว่า ขึ้นเลีย กะได้
เขากำลังก้าวขาลงเลียอยู่ตอนนี้
แล้วเขาสิขึ้นเลียไปใส เขากะสิขึ้นเลียอาดสิไปจุดหมายปายทางที่เขาอยากไป อันนี้กะบ่ฮู้ว่าเขาสิไปใส
แล้วแต่เขาเนาะ เขาอยากไปหม้องนั้นหม้องนี้ กะแล้วแต่เขา
แล้วเลียนี้มันอยู่ใส เลียนี้ต้องขี่ในน้ำเนาะ เลียนี้มันต้องขี่ในแม่น้ำใหญ่หลือว่าแม่น้ำที่บ่ใหญ่ปานใดกะได้ แต่ว่าสามาดเลียขี่ได้เนาะ เลียลงลอยได้เนาะ

Basic vocabulary — Page 01 — Series B, pictures 01-03: chopsticks, noodle soup, to break


1
อันนี้คือหญัง อันนี้คือตะเกียบ อันนี้เป็นตะเกียบ
ตะเกียบมันเอาไว้เฮ็ดหญัง ตะเกียบมันเอาไว้ถ้าคีบแนวกิน เอาไว้ถ้าคีบกินแนวกินกะได้ เอาไว้คีบกวยเตียวกะได้ หลือว่าคีบอันที่แนวมันเป็นเส้น
ตะเกียบมันเฮ็ดมาจากอี่หยัง ตะเกียบเฮ็ดมาจากไม้ เฮ็ดมาจากไม้ไผ่ หลือเฮ็ดมาจากไม้อันอื่นกะได้ หลือว่าเฮ็ดมาจากพะสะติกกะได้
ตะเกียบคู่หนึ่งมันมีสองอัน หลือว่าใซ้นำกันสองอัน ใซ้สองอันนั้นหละไว้ถ้าคีบแนวกิน ขั้นมันมีอันเดียว มันคีบบ่ได้ มันใซ้คีบกินบ่ได้

2
เขากำลังเฮ็ดอี่หยัง เขากำลังใซ้ตะเกียบคีบกินกวยเตียวอยู่
แล้วกวยเตียวมันอยู่ในใด กวยเตียวมันอยู่ในถ้วย อยู่ในถ้วยใบบักใหญ่หนึ่ง กวยเตียวกะหลายหลายบักคักหนึ่ง หลายจนสิล้นเอาโลด
เขาใซ้อี่หยังจับตะเกียบ เขาใซ้มือของเขานั้นหละ เขาใซ้มือของเขาจับตะเกียบ แล้วกะคีบกินกวยเตียว

3
เขากำลังเฮ็ดอี่หยัง เขากำลังหักตะเกียบ มีคนคนหนึ่งเขาหักตะเกียบ
เขาใซ้มือของเขาสองข้างหักตะเกียบ ข้างหนึ่งจับฝั่งหนึ่ง ข้างหนึ่งจับอีกฝั่งหนึ่ง แล้วเขากะหักตะเกียบ
แล้วเขาหักตะเกียบเฮ็ดหญัง จัก บ่ฮู้คือกัน จักว่าเขาหักตะเกียบเฮ็ดหญัง เขาอาดสิหักเหล้นกะได้
แล้วตะเกียบมันแข็งบ่เขาคือหักได้ บ่ ตะเกียบมันบ่แข็งดอก มันบ่แข็งปานใด เพาะว่าตะเกียบมันเฮ็ดมาจากไม้ จากไม้น้อยหนึ่ง มันสามาดหักได้ แต่ว่าขั้นตะเกียบเฮ็ดมาจากเหล็ก มันกะหักบ่ได้ เพาะว่าเหล็กมันแข็ง มันบ่สามาดหักได้

Basic vocabulary — Page 03 — Series B, pictures 18-20: mortar, pestle, chili, to pound


18
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นคก เป็นคกกับสาก เป็นของคู่กัน สองอันนี้ใซ้งานคู่กัน
คกกับสากกะมีหน้าที่ว่าเอาไว้ถ้าตำ ตำอี่หยังกะได้ ตำบักพิกกะได้ ตำเข้าสานกะได้ ตำอี่หยังกะได้ เพื่อที่ว่าอยากให้สิ่งนั้นมันแหลก หลือว่าอยากให้สิ่งนั้นมันมุ่น มุ่นอุ้ยปุ้ยนั้นหละความหมายหนะ

19
เขากำลังเฮ็ดหญัง คนคนหนึ่งเขากำลังเอาบักพิกลงไปในคก
เขาเอาบักพิกลงไปในคกเฮ็ดหญัง เขาอาดสิเอามาตำ อาดสิเอาบักพิกนี้มาตำ อาดสิอยากให้บักพิกนี้มันแหลก หลือว่าให้มันมุ่นนั้นเอง เขากะเลยสิเอามาตำ
เขาเอาบักพิกลงไปจักน่วย ที่แนมเห็นกะมีอยู่สามน่วย บักพิกมีอยู่สามน่วย บ่ได้มีหลายซ้ำ เขากำลังโญนลงไปในคก
แล้วบักพิกน่วยใหญ่บ่ กะน่วยบ่ใหญ่ปานใดดอก กะน่วยพอปะมาน
แล้วเขาสิตำบักพิกเฮ็ดหญัง เขาอาดสิเอาไปเฮ็ดแนวกิน หลือว่าเอาไปปุงแนวกิน เขาอยากให้แนวกินนั้นลดซาดมันจัดหลือว่าลดซาดมันเผ็ด เขากะเลยสิเอาบักพิกนี้มาตำ แล้วกะเอาไปปุงแนวกินนั้นเอง

20
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังตำบักพิก
เขาใซ้มือข้างซ้ายของเขาจับสาก อีกข้างหนึ่งกะข้างขวาจับคกบัดหนิ เขากะใซ้มือข้างซ้ายของเขาตำๆๆ จับสากแล้วกะตำๆๆๆ บักพิกเนาะ
เป็นหญังเขาคือตำบักพิก เขาอาดสิอยากให้บักพิกนั้นมันแหลก เขากะเลยสิตำบักพิก เอาสากตำบักพิกลงไปในคกเนาะ
แล้วเขาตำแฮงบ่ กะสิตำแฮงอยู่ กะสิใซ้แฮงหลาย ขั้นตำค่อยบักพิกกะบ่แหลก บักพิกกะบ่มุ่น ขั้นตำแฮงบักพิกกะสิมุ่น บักพิกกะสิแหลก

Basic vocabulary — Page 27 — Series B, pictures 01-03: tuk tuk, driver, passenger


1
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นลดสามล้อ หลือว่าลดตุ่กตุ่ก
ลดสามล้อหนิ[กับ]ลดตุ่กตุ่กคือกันบ่ กะค้ายกันหนิหละ กะคือกันอยู่ บ่แตกต่างกันหลาย ใซ้งานได้คือกัน
แล้วลดตุ่กตุ่กกับลดสามล้อหนิใซ้งานจั่งใด กะเอาไว้ถ้าขับ กะเอาไว้ถ้าขี่ไปหนั้นไปหนี้ คือกันกับลดใหญ่ คือกันกับลดพิกอั่บหนั้นหละ แต่ว่ามันขี่ได้เล็วบ่หลาย ขี่ได้ซ้าขี่ได้ส่ำกับลดมอเตอไซหลือว่าซ้ากว่ามอเตอไซอยู่ แต่ว่าขี่ได้บ่เล็วหลาย แต่ว่าสามาดขี่ไปหนั้นไปหนี้ได้ สะดวกคือกัน ส่ำลดใหญ่หนั้นหละเนาะ
แล้วอยู่ในกุงเทบกะมีลดตุ่กตุ่กหลายคือกัน เอามาใซ้เป็นยานพาหะนะหลือว่าลดลับส่งนั้นเอง ค้ายกับลดแท็กซี้เนาะ ใซ้งานคือกันกับลดแท็กซี้ แบบว่า ลับพุโดยสานไปส่งหม้องหั้นหม้องหนี้ กะค้ายกับลดแท็กซี้

2
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุซายพุหนึ่ง เขากำลังขับลดตุ่กตุ่กหลือว่าลดสามล้ออยู่
เขาสิขับลดอันนี้ไปใส กะบ่ฮู้คือกัน อาดสิขับไปตะหลาดตะลี หลือว่าไปซื้อของกะได้
แต่ว่าในบางเที่ย ขั้นพุซายคนนี้ขับลดตุ่กตุ่ก หลือว่าเขาสิเป็นคนขับตุ่กตุ่กลับจ้าง เขากะอาดสิไปลับพุโดยสาน หลือว่าไปหม้องหั้นไปหม้องหนี้ เพื่อที่สิไปลับไปหาพุโดยสานนั้นเองเนาะ

3
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุซายพุหนึ่ง กำลังขับลดตุ่กตุ่กอยู่หนั้นหละ
แล้วเขาสิขับไปใส จักคือกัน บ่ฮู้ว่าเขาสิขับไปใส แต่ว่าตอนนี้แนมเห็นคนสองคนอยู่ข้างหลังของเขา หลือว่าเขากำลังบันทุกพุโดยสาน ไปส่งหม้องหนั้นหม้องหนี้ อาดสิไปส่งพุโดยสานกะได้ เพาะว่าเห็นพุหญิงกับพุซายสองคนนั่งอยู่ข้างหลัง
แล้วลดตุ่กตุ่กนี้มันบันจุคนได้หลายคนบ่ หลือว่าคนไปนั่งเทิงลดตุ่กตุ่กหนิได้หลายคนบ่ กะบ่หลายปานใด คนกะนั่งอยู่เทิงลดตุ่กตุ่กได้บ่ส่ำลดเก็งหลือว่าบ่ส่ำลดพิกอั่บเนาะ เพาะว่าพื้นที้มันบ่หลาย มีพื้นที้น้อยหนึ่ง เพาะว่าลดตุ่กตุ่กมันกะมีแค่สามล้อ หม้องนั่งนี้กะสิมีหม้องนั่งคนขับแล้วกะหม้องนั่งพุซ้อนนั้นเอง กะคือได้ปะมานสองสามคน สี่คน ปะมานนั้น อย่างหลายเนาะ

Basic vocabulary — Page 29 — Series B, pictures 06-07: ring, gold, to put on


6
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นแหวน
เป็นแหวนทอง แหวนสีทองพ้อม เบิ่งลักสะนะแล้วกะอาดสิเป็นแหวนทองเลยเนาะ
แล้วแหวนทองนี้มีลาคาแพงบ่ กะแพงอยู่ กะแพงเติบเนาะ กะบ่แพงปานใด กะแล้วแต่ เขาเอิ้นว่าหญังเกาะ น้ำหนักทอง ลูบแบบทอง ขั้นน้ำหนักหลายกะแพง น้ำหนักหน้อยกะบ่แพง
ตอนนี้เนาะกะอาดสิแบบว่า บาทหนึ่ง เขาเอิ้นว่าบาทหนึ่ง กะสิลาคาอยู่ปะมานสองหมื่นบาทเนาะ
น้อยกว่าบาทหนึ่งกะสิมีสามสะหลึง สองสะหลึง แล้วกะหนึ่งสะหลึง แล้วกะเคิ่งสะหลึงเนาะ กะสิตามลาคาลงไป
เคิ่งบาทหลือว่าสองสะหลึงกะสิอาดปะมานหมื่นหนึ่ง สามสะหลึงกะสิปะมานหมื่นห้า ปะมานนั้นเนาะ ลาคาแล้วแต่ปะลิมาน แล้วแต่จำนวนของทองมันเนาะ
ทองหนิกะสิเป็นลาคาที่บ่แพงส่ำเพ็ด ขั้นเพ็ดกะสิลาคาแพงไปอีกลาคาหนึ่ง ทองกะสิลาคาพอปะมานที่เว้าไปเนาะ

7
เขากำลังเฮ็ดหญัง เบิ่งจากลักสะนะแล้วเขากำลังใส่แหวน ใส่แหวนทอง
กะสิมีมือพุหนึ่ง จับแหวน กำลังสิใส่ หลือว่าอาดสิเป็นมือของเขาเทิงสองข้าง อาดสิเป็นพุเดียวกัน กำลังใส่แหวนไปอีกข้างหนึ่งของเขาเนาะ
อาดสิเป็นฝั่งขวากำลังใส่แหวน แล้วอีกมือข้างซ้ายกำลังสิสุบแหวนไปใส่มือข้างขวา
เขาใส่แหวนเข้าไปในนิ้วใด เขาใส่แหวนเข้าไปในนิ้ว นิ้วนางเนาะ เขาเอิ้นว่านิ้วนาง คนกะสิมีห้านิ้ว มีนิ้วโป้ นิ้วซี้ นิ้วกาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เนาะ
กานใส่แหวนกะสิมีกานบ่งบอกถึงสองลักสะนะ หลือว่าสองวิทีนำกันเนาะ ขั้นเขาใส่แหวนอยู่นิ้วนางกะสิหมายถึงว่าเป็นกานหมั้น หมั้นที่สิก่อนแต่งงาน ขั้นสมมุดว่ามีผัวเมีย สองคนเนาะ กำลังสิแต่งงานกัน แต่ว่าบ่ทันได้แต่ง หมั้นกันก่อน เพื่อที่ว่าสิไปแต่งงาน แต่ว่าในตอนนี้คือหมั้นกันก่อน กะสิใส่แหวนอยู่นิ้วนางเนาะ
แต่ว่าขั้นมื้อใดสองคนนี้อยากสิแต่งงานกัน อีกสองสามเดียนไปข้างหน้า ปากดว่าฮอดมื้อสองสามเดียนนั้นแล้ว สิแต่งงานกัน สมมุดว่าฮอดมื้อนี้ปึ่บ สิแต่งงานกันมื้อนี้ กะสิใส่แหวนนิ้วก้อย อันนั้นกะสิหมายถึงว่าขั้นแต่งงานกันกะใส่แหวนนิ้วก้อย ขั้นหมั้นกันให้ใส่แหวนนิ้วนาง

Basic vocabulary — Page 30 — Series B, pictures 18-20: to wash one’s face, to brush one’s teeth, to comb one’s hair


18
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุหญิงเนาะ เป็นพุหญิงดอก มัดผมจุกพ้อมเด่ะ ฝั่งซ้ายกะฝั่งขวา มัดเทิงสองข้างเนาะ เขากำลังล้างหน้าอยู่
อาดสิล้างอยู่ห้องน้ำ อาดสิล้างอยู่ในบ้านเขาหละ อาดสิเป็นห้องน้ำบ้านเขาหละ กำลังล้างหน้าอยู่
กะใซ้มือสองข้างหนะ จับหน้าขึ้นมา แล้วกะ เออ จับน้ำขึ้นมาเนาะ แล้วกะล้างๆๆ หน้าของเขา
เป็นหญังเขาคือล้างหน้า เขาอาดสิหัวกะตื่น หัวกะตื่นนอน แล้วกะล้างหน้า เพื่อสิเฮ็ดให้มันสดซื้น เพื่อที่สิเฮ็ดให้หน้ามันสดซื้นเนาะ แล้วกะบ่ให้มีอี่หยังติดหน้า หลือว่าไขมัน หลือว่าเหงี่ยอี่หยังติดหน้า เฮากะสิล้างเอาความสกกะปกออกไปเนาะ

19
พุหญิงคนนี้กำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุหญิงพุหนึ่งเนาะ พุหญิงคนนี้หละกำลังแปงฟัน
กำลังแปงฟันใซ้แปงสีฟัน ใซ้ยาสีฟัน แล้วกะแปงๆๆๆ แปงแข้วของเขาเนาะ
แล้วเขาแปงอยู่ใส กะอาดสิแปงในห้องน้ำบ้านของเขาเนาะ ตอนนี้เขากำลังอยู่หน้า อาดสิเป็นหน้ากะจก หลือว่าอยู่หน้าชักโคก อุ้ย บ่แม่น อยู่หน้าอ่างล้างหน้าเนาะ บ่แม่นหน้าชักโคกเนาะ เขากำลังแปงฟันอยู่
แล้วเขาแปงฟันเฮ็ดหญัง เขากะแปงฟันเพื่อที่ว่าสิให้แข้ว หลือว่าปากของเขาสะอาดเนาะ คนตื่นนอนมาใหม่กิ่นปากมันกะสิมีอยู่ เพื่อที่ว่าสิทำความสะอาดแข้ว หลือว่าทำความสะอาดปากของเฮา บ่ให้มันมีกิ่นเหม็นอยู่ในแข้ว ซอกแข้วของเฮา เฮากะต้องแปงฟัน แปงแข้ว เพื่อที่สิให้แข้วเฮาสะอาด หลือว่าบ่มีกิ่นเหม็นหลายปานใดเนาะ

20
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุหญิงพุหนึ่งเนาะ กำลังหวีผม
กำลังหวีผมอยู่ กะใซ้มือข้างหนึ่งจับหวี แล้วกะมือข้างหนึ่งจับผม แล้วกะหวีๆๆๆ หวีลงไป
แล้วเป็นหญังเขาคือหวีผม กะบ่ฮู้คือกัน ผมเขาอาดสิหญุ้ง หลือว่าผมเขาอาดสิหญอง มันข้องกันจั่งซี้เนาะ เขากะต้องใซ้หวี หวีผมลงไป ให้มันเป็นเส้นของใผของมัน บ่ให้มันไปหญุ้งกัน หลือว่าไปข้องกันเนาะ
แล้วผมของเขาญาวบ่ กะญาวเด่ะ เบิ่งลักสะนะแล้วญาวเติบ ญาวคักอยู่ ญาว บักญาวหนึ่ง เลยบ่าไปอีก ฮอดนมฮอดเอิกพุ้นหนะ ผมของเขากะเลยญาวคักญาวแน่ ไว้จั่งใดญาวแท้ ผมนั้นกะเดย

Basic vocabulary — Page 31 — Series B, pictures 14-17: morning, noon, afternoon, evening


14
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ กะเป็นบันญากาดญามมื้อเซ้าเนาะ กำลัง พะอาทิดกำลังสิ กำลังสิขึ้นจากดิน กำลังสิขึ้นไปเทิงฟ้าเนาะ กำลังสิลอยขึ้นๆๆ เนาะ
กะเป็นอากาดที่บอลิสุด หลือว่าเป็นอากาดที่บ่ฮ้อน
ส่วนมากแล้วคนสิมักอากาดญามมื้อเซ้าเนาะ เป็นอากาดที่สดซื้นหลือว่า[สดซื้น]เนาะ เพาะว่าพะอาทิดกำลังขึ้น มันบ่ฮ้อนปานใด เป็นอากาดที่เย็นเนาะ คนกะสิมักอากาดญามมื้อเซ้าเนาะ
แล้วกะเบิ่งทัมมะซาดหม้องนี้ แล้วกะมีพูเขาพ้อม มีต้นไม้หลายต้นพ้อม มีทองฟ้าสีฟ้าพ้อม โอ๊ย เป็นตาไปเนาะ อาดสิเป็นทัมมะซาดที่คนอยากไปหม้องนี้เนาะ

15
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ เป็นทัมมะซาด
อาดสิเป็นญามเที่ยง เป็นตอนเที่ยงเนาะ เพาะว่าพะอาทิดกำลังขึ้นเทิงทองฟ้าแล้ว อาดสิขึ้นฮอดกางๆๆ ทองฟ้าแล้ว
แล้วเฮาสิฮู้ได้จั่งใดว่าเป็นญามมื้อเซ้า หลือว่าเป็นญามเที่ยง หลือว่าตอนนี้มันญามเที่ยง เฮาสิฮู้ได้จั่งใด เฮากะเบิ่งง่ายว่าขั้นพะอาทิดตงหัวเฮา หลือว่าเฮาแนมขึ้นไปเทิงฟ้าเนี้ย แล้วพะอาทิดอยู่ตงหัวเฮาพอดี มันกะสิเที่ยงตงพอดี
ขั้นพะอาทิดมันหัวกะขึ้น มันสิเป็นญามเซ้า แต่ว่าขั้นพะอาทิดมันตกดินแล้วกะสิเป็นญามแลงเนาะ แต่ว่าตอนนี้พะอาทิดมันอยู่เทิงหัวเฮากะสิเป็นตอนเที่ยงพอดี
อากาดกะกำลังฮ้อน กำลังฮ้อนคักนั้นหละ บ่เย็น บ่หนาว แต่ว่าฮ้อนเนาะ เพาะว่าอาทิดมันกำลังขึ้นฟ้า

16
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ กะเบิ่งลักสะนะแล้วกะกำลังสิค่ำ
แต่ว่ากะสิเป็นญามบ่ายอยู่เนาะ กำลังปะมานบ่ายสาม บ่ายสี่ หลือว่าห้าโมงแลง ปะมานนี้เนาะ กำลังสิค่ำ พะอาทิดกำลังสิตกดิน
กำลังสิเบิดฮ้อนไป เพาะว่าพะอาทิดกำลังสิตกดิน กำลังสิอ่วยลงดิน กำลังสิมุดดินลงไปเนาะ

17
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นทัมมะซาดเนาะ กะกำลังสิ กำลังสิค่ำ กำลังสิมืดเนาะ
แล้วปะมานนั้น ขั้นพะอาทิดตกดินเนี้ย มันสิปะมานจักโมง กะสิปะมานหกโมงแลง หลือว่าทุ้มหนึ่ง ปะมานนี้ พะอาทิดกะสิตกดินเลียบล้อยแล้ว
ปะมานหกโมงเนี้ย พะอาทิดกำลังสิอ่วยลงไปตกดิน
ปะมานทุ้มหนึ่งพะอาทิดตกดินเลียบล้อยแล้วเนาะ ขั้นเป็นในพากอี่สาน
แล้วมันกะสิมืดหลังจากที่พะอาทิดตกดินไปแล้ว แล้วอากาดหลือว่าบันญากาดกำลังกะสิมืดไป

Basic vocabulary — Page 28 — Series B, pictures 01-03: to hang, picture, monkey, branch, socks


1
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเอาพาบไปห้อย
พาบอี่หยัง เป็นลูบพาบวาด หลือว่าพาบถ่ายนี้หละ เป็นกอบสี่เหลี่ยม
เขาสิเอาไปห้อยเฮ็ดหญัง เขากะสิห้อยไว้ฝาผะหนัง หลือว่าห้อยไว้ถ้าโซ ไว้ถ้าเบิ่ง
เขาห้อยไว้ใสเกาะ ห้อยไว้ฝาผะหนัง ติดกับฝาผะหนังหละ
แล้วเขาห้อยจั่งใด กะสิมีเซียกติดอยู่กอบลูบ หลือว่าหม้องพาบวาด แล้วกะไปห้อยใซ้ตะปู ตะปูที่มันตอกลงไปในฝาผะหนัง เขากะสิเอาตะปูหนั้นหละ ตะปูดอกหนึ่งตอกลงไปในฝาผะหนัง แล้วแต่ว่าเฮาสิตอกอยู่หม้องใด เอาไว้จุดใด เฮากะตอกตะปูลงไปหม้องนั้น แล้วเฮากะเอาพาบอันนี้ไปห้อยอยู่หม้องตะปูหม้องนั้น หลือว่าไปห้อยอยู่หม้องข้างฝาหม้องนั้น

2
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นสัด เขาเอิ้นว่าลิง มันเป็นลิง
ลิงกำลังเฮ็ดหญังอยู่ มันกำลังห้อยอยู่ ห้อยอยู่เทิงง่าไม้ อยู่เทิงกิ่งไม้หนั้นหละ
กิ่งไม้กิ่งใหญ่บ่ บ่ใหญ่ปานใดดอก
เอ๊า แล้วเป็นหญังลิงคือไปห้อยอยู่หนั้น กะจักคือกัน มันอาดสิมักอยู่เทิงกกไม้กะได้ มันกะเลยห้อยอยู่เทิงกกไม้ หลือว่าห้อยอยู่เทิงง่าไม้
ในโตของลิงมันมีอี่หยังแน่ มันกะสิมีแขน มีขา มีแขนสองข้าง มีขาสองข้าง มีหางพ้อม มีขนพ้อม ลิงซู่โตสิมีขนหลายพ้อม เกียบซู่จุดหลือว่าซู่หม้องอยู่ในโตมันเอาโลด
แล้วลิงอันนี้โตสีหญัง อันนี้ลิงโตนี้มันสีส้ม
แล้วลิงโตอื่นสีอื่นได้บ่ ได้อยู่ แล้วแต่ลิงพันนั้นหลือว่าลักสะนะนั้น มันกะสิแตกต่างกันไป บ่คือกัน
แล้วลิงมันอาสัยอยู่ใส มันกะอยู่ในป่า อยู่ในป่าในดงในโคกพุ้นหละ
ลังเที่ยคนกะจับมันเอาไว้ในสวนสัด หลือว่าเอามันมาเลี้ยงอยู่บ้าน

3
อันนี้อี่หยัง อันนี้เป็นถุงเท้า เขากำลังตากถุงเท้าอยู่
ถุงเท้ามีจักกิ่ง มีหกกิ่ง
กะอาดสิมัน อาดสิสกกะปก หลือว่ามันเปี้ยน เขากะเอามาซักเพื่อที่สิให้มันสะอาด ให้มันหอมเนาะ เพื่อที่สิใซ้งานต่อไปในมื้อใหม่
แล้วเขาตากอยู่ใส กะตากอยู่กางแก้ง หลือว่าตากอยู่หม้องมันมีแดด ให้แดดส่อง ขั้นแดดถืก หลือว่ามันตากใส่แดด มันกะสิแห้ง หลือว่าเฮ็ดให้มันบ่เหม็นอับเนาะ ขั้นมันบ่มีแดด มันกะสิเหม็นอับ หลือว่าเหม็นตากบ่แห้งนั้นเองเนาะ

Basic vocabulary — Page 02 — Series B, pictures 06-11: bottle, water, to open, to pour, glass, to drink, trash


6
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นขวดน้ำ ขวดน้ำเต็มขวดเอาโลด
ขวดน้ำกะเป็นแก้ว แก้วกะสีใส
ในขวดนั้นกะมีน้ำพ้อม น้ำกะน้ำสีฟ้า
ขวดน้ำกะมีฝาพ้อม ฝาขวดน้ำกะสีส้ม
ขวดน้ำมีจักขวด ขวดน้ำมีขวดเดียว มีขวดเดียวข้อหล้อ

7
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเปิดฝาขวดน้ำ เขากำลังเอาแนวเปิดฝาขวดน้ำงัดฝาขวดน้ำขึ้น
เขาเปิดฝาขวดน้ำเฮ็ดหญัง เขาอาดสิหิวน้ำ หลืออาดสิกินน้ำในขวดนี้ เขากะเลยเปิดฝาขวดน้ำออก

8
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นแก้วน้ำ
เป็นโจกน้ำนั้นหละ เอาไว้ถ้าใส่น้ำ หลือว่าเอาไว้ใส่สิ่งต่างๆ ที่มันเป็นน้ำ แล้วเอาไว้ถ้ากิน
แก้วน้ำอันใหญ่บ่ โจกอันใหญ่บ่ บ่ กะอันบ่ใหญ่ปานใด กะอันพอดีนี้หละ อันพอเท่า

9
เขากำลังเฮ็ดอี่หยัง เขากำลังเทน้ำ เขากำลังเทน้ำใส่แก้ว
มือหนึ่งของเขากำลังจับขวดน้ำ แล้วกะลินน้ำหลือว่าเทน้ำใส่แก้วน้ำ
เขาเทน้ำเฮ็ดหญัง เขากะอาดสิเอาน้ำนี้ไปกิน หลือว่าสิกินน้ำ เขากะเลยเทน้ำใส่แก้ว แล้วกะสิเอาไปกิน

10
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังกินน้ำ พุซายคนนี้เขากำลังกินน้ำ
เป็นหญังเขาคือกินน้ำ จักคือกัน เขาอาดสิหิวน้ำ เขากะเลยกินน้ำกะได้
แล้วเขากินน้ำจั่งใด เขากินน้ำในแก้ว เขาอาดสิเทน้ำในขวดแล้วมาใส่แก้วนี้ แล้วเขากะจับแก้วน้ำนี้มากิน
เขากินน้ำหลายบ่ จัก จักคือกัน จักว่าเขากินหน้อยกินหลาย บ่ฮู้นำเขา

11
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังดึกขวดถิ้ม
เขาดึกขวดถิ้มเฮ็ดหญัง เขาอาดสิบ่ใซ้งานขวดนี้แล้ว หลือว่าขวดน้ำนี้มันเบิดปะโยดแล้ว เขากะเลยสิเอาขวดน้ำนี้ถิ้ม หลือว่าขวดนี้มันอาดสิเป็นขะยะแล้ว เขากะเลยเอาไปถิ้มถังขะยะ
เขาเอาถิ้มจั่งใด เขากะอาดสิจับขวดน้ำมาแล้ว เขากะโญนหลือว่าดึกใส่ถังขะยะ
แล้วเขาโญนแฮงบ่ จักว่าโญนแฮงโญนค่อย กะอาดสิโญนค่อยกะได้ เพาะว่ามันเป็นแก้ว มันเป็นขวด โญนแฮงบ่ได้ ขั้นโญนแฮงมันกะสิแตก ขั้นโญนค่อยมันกะสิบ่แตก เพาะสะนั้นแล้ว เขากะอาดสิโญนค่อยกะได้